จำนวนผู้เข้าชม

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568

ข้อเสนอปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อการฟื้นฟู เรียกศรัทธาคืนมา

 ข้อเสนอปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อการฟื้นฟู เรียกศรัทธาคืนมา





ข้อเสนอเชิงวิชาการเพื่อการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ให้ฟื้นฟูกลับมา เรียกศรัทธาคืนจากประชาชนในยุคผู้บริหารชุดใหม่ บนสมมุติฐานว่า“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค


โจทย์ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ต้องเผชิญ เพราะพรรคเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยกำลังสูญเสียทั้งฐานเสียง ประวัติศาสตร์ และความศรัทธาของประชาชนไปทีละน้อย รุนแรง และรวดเร็วอย่างไม่คาดคิด จน “เฉลิมชัย ศรีอ่อน”ต้องตัดสินใจสละตำแหน่งหัวหน้าพรรคออกไป


แนวทางการ “ปฏิรูป/ปรับปรุง” พรรคประชาธิปัตย์


1. ด้านภาพลักษณ์ (Branding & Image)

สร้างเอกลักษณ์ใหม่: จากภาพ “พรรคเก่าแก่-อนุรักษ์นิยม” ไปสู่ “พรรคสมัยใหม่-โปร่งใส-ทันโลก” หรืออาจจะเรียกว่า พรรคประชาธิปัตย์ใหม่

ใช้สื่อดิจิทัลจริงจัง: ทีมโซเชียลมีเดียต้องมืออาชีพ ไม่ใช่แค่ประชาสัมพันธ์ แต่ต้อง Engage กับคนรุ่นใหม่ และสมาชิกพรรค ให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ อุดมการณ์ นโยบายของพรรค ความคืบหน้า ก้าวหน้าใหม่ๆ ต้องสื่อสารให้สังคมเข้าใจอย่างไม่ชักช้า

รีแบรนด์สีและสัญลักษณ์: ทำให้ภาพลักษณ์แตกต่างจากเดิม เช่น พรรคแรงงานอังกฤษเคยปรับจาก “อนุรักษ์-แรงงานแบบดั้งเดิม” สู่ภาพที่สดใหม่

2. ด้านนโยบาย (Policy Platform) วางจุดขายชัดเจน ไม่แข่งประชานิยมอย่างเดียว แต่ต้องเป็น “พรรคที่มีความรู้-นโยบายปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่เพ้อฝัน แต่อธิบายได้

นโยบายจับต้องได้: เช่น เศรษฐกิจฐานรากทันสมัย (Smart Farmer, Digital SME), สิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด (Clean Energy), การศึกษาเชื่อมตลาดแรงงาน

เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่: สร้าง “Think Tank” ภายในพรรค ให้คนรุ่นใหม่คิดนโยบายโดยตรง ไม่ผ่านกรอบเก่าๆง่ายๆคืออย่าไปวางกรอบครอบงำคนรุ่นใหม่ ปล่อยให้เขาคิดอย่างเสรี ผู้ใหญ่ก็รับฟังอย่างตั้งใจ เพื่อนำไปปรับเปลี่ยน

3. ด้านบุคคล/ทีมบริหาร (Leadership & Team)

ต้องลดภาพ “การเมืองตระกูล-การเมืองรุ่นเก่า” เปิดทางให้ Gen X / Gen Y ก้าวขึ้นมาเป็นแกนกลาง อันจะเป็นแนวทางสร้างคนรุ่นใหม่ สร้างรอยต่อสานต่ออุดมการณ์ของพรรค ไม่ให้ขาดช่วงบุคคลากร

รักษาฐานเก่า-เสริมคนใหม่: คนอย่าง ชวน หลีกภัย / บัญญัติ บรรทัดฐาน ควรอยู่ในฐานะ “ผู้อาวุโสที่ให้คำปรึกษา” ไม่ใช่ผู้กำหนดทิศทาง บงการ หรือสั่งการ

แสวงหาคนรุ่นเข้ามา กล้าเดินเข้าไปชัดันกค้นหาชักชวน ดันดาวรุ่งให้ชัดเจน ทายาทการเมืองท้องถิ่นที่มีศักยภาพ, คนรุ่นใหม่ในกรุงเทพฯ-ใต้ ให้มีบทบาทนำ

ผสมผสานทีมมืออาชีพดึงนักเศรษฐศาสตร์ นักสิ่งแวดล้อม นักธุรกิจเทคโนโลยีเข้ามา ไม่ใช่แค่นักการเมืองสายอาชีพ

เทคโนแครตเฉพาะด้านต้องเข้ามา อย่างการกรจายอำนาจที่เคยเป็นจุดเด่นของพรรค ทุกวันนี้ใครรู้จริง และอธิบายได้ มองไม่เห็น

4. โครงสร้างภายในพรรค (Party Reform)

ประชาธิปไตยในพรรคต้องเกิดขึ้นจริง ๆเปิดให้สมาชิกโหวตเลือกหัวหน้า/กรรมการบริหารอย่างโปร่งใส ไม่ใช่เกิดจากการล็อบบี้จนเกินงาม

สร้างระบบ Talent Pool: คัดสรรและฝึกอบรมคนรุ่นใหม่เข้าสู่การเมืองในนามพรรค (เหมือนที่พรรคการเมืองยุโรปทำ)

อาจจะการรื้อฟื้นโรงเรียนการเมืองขึ้นมาทำใหม่ ฝึกผู้นำคนรุ่นใหม่อย่างเอาจริงเอาจัง มีหลักสูตรใหม่ๆขึ้นมาจัดอบรม

เชื่อมยงกับท้องถิ่น ประชาธิปัตย์ ต้องไม่ใช่พรรคคนใต้ ไม่ใช่พรรค กทม. หรือพรรคภาคใต้เท่านั้น ต้องกระจายคนทำงานไปทุกภูมิภาค ภาคอิสานคือฐานใหญ่ด้วยจำนวนประชากร


สรุปสั้น ๆ:

 -สร้างภาพลักษณ์ใหม่ → ทันสมัย โปร่งใส

 -นโยบายใหม่ → Practical + ตอบโจทย์อนาคต

 -คนใหม่ → ดาวรุ่ง + มืออาชีพเข้ามามีบทบาทจริง

 -โครงสร้างใหม่ → พรรคเปิดกว้าง มีส่วนร่วมจริง


มีคำถามว่า….จุดอ่อนที่คนมักมองว่า“ประชาธิปัตย์ ”ดีแต่พูด แต่ทำจริงน้อย หรือไม่ทำ” + “ส่งใครก็ได้ลงเลือกตั้ง” จนเสียศรัทธาไปมาก “กรณีเสาไฟฟ้า”


ถ้าจะ “ฟื้นภาพลักษณ์” ต้องแก้เพิ่มจากที่ผมสรุปไปก่อนหน้า โดยเฉพาะจุดเจ็บพรรคเอง 


สิ่งที่ ปชป. ต้องปรับเพิ่ม

1. วัฒนธรรมการเมืองภายในพรรค

 -เลิกระบบ “เสาไฟฟ้า” ต้องยุติการส่งผู้สมัครแบบใช้แบรนด์พรรคค้ำอย่างเดียว ต้องคัดคนที่มีโปรไฟล์-ผลงาน-เป็นที่ยอมรับในท้องถิ่นจริง ๆ

 -ปรับโครงสร้างคัดเลือกผู้สมัคร ตั้ง “คณะกรรมการสรรหา” ที่เปิดรับสมัคร + ประชุมรับฟังความเห็นคนพื้นที่ ไม่ใช่ล็อกไว้แค่คนของผู้ใหญ่ สืบทอดทายาททางการเมือง แต่ขาดคุณภาพ

 -ความรับผิดชอบ ถ้าพูดแล้วทำไม่ได้ ต้องมี mechanism ที่ชัดเจน เช่น ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหาร หรือลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองอย่างมีสปิริต ทำให้เห็น

2. สื่อสารตรงไปตรงมา (Communication)เลิกแนว “พูดสวย แต่เลื่อนลอย” ต้องพูดสั้น กระชับ แล้วทำให้เห็นผล

 ตั้ง KPI รายปีของพรรค เช่น “เราจะผลักดันกฎหมาย A, แก้ปัญหา B” แล้วรายงานความคืบหน้าต่อประชาชนทุก 6 เดือน ทำไม่ได้อย่างที่พูด มีกติกากำหนดความรับผิดชอบ

ใช้ Fact-checking เชิงบวก ถ้ารัฐบาลไม่ทำตามที่หาเสียง พรรคต้อง “รายงานต่อสังคม” ว่าใครผิดสัญญา พรรคไหนหาเสียงไว้แล้วทำไม่ได้ แต่เทคนิคการหาเสียง

3. เปลี่ยนจากพรรคของคนรุ่นเก่า (อนุรักษ์)เป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่พรรคที่มีชีวิตชีวา

 

เลิกการเมืองแบบ “คลับเก่า” ที่วนเวียนอยู่กับแกนนำเดิม ๆสร้างคนหน้าใหม่ให้เป็นตัวจริง เช่น เปิดตัว 10–15 คนรุ่นใหม่ในสภา/ท้องถิ่น ให้คนเห็นว่าพรรคนี้ไม่ได้หมดไฟรอเวลาตายซาก สิ้นตำนานพรรคใหญ่ สถาบันทางการเมือง


ทำ Political Incubator เหมือนโรงเรียนการเมืองพรรค ที่เปิดให้คนหนุ่มสาว นักกิจกรรม องค์กรท้องถิ่น เข้ามาเป็น pipeline


4. ความเชื่อมโยงกับประชาชน (Grassroots Connection)

ลงพื้นที่จริงแบบมีเป้าหมาย ไม่ใช่ลงไปแจกใบปลิว แต่ไปทำงานร่วมกับชุมชน เช่น โครงการเล็ก ๆ (น้ำเสีย, เกษตร, การศึกษา) ที่ทำได้จริงในเขต ลงชุมชนจัดอบรม สัมมนาให้ความรู้ใหม่ๆ


เน้นความใกล้ชิด ผู้สมัคร/ส.ส. ต้องเป็น “ตัวแทน” ของประชาชนจริง ๆ ไม่ใช่ “ตัวแทนพรรค-กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองที่ถูกส่งมา


5. เลิกวาทกรรมเก่าประชาชนเบื่อคำว่า “เราเป็นพรรคประชาธิปไตยที่เก่าแก่ที่สุด” หรือ “เราไม่โกง” หรือสถาบันทางการเมืองที่หลายพรรคเริ่มใช้


ต้องเปลี่ยนเป็น “เราแก้ปัญหาให้ประชาชนได้เร็วกว่า” หรือ “เราเสนอสิ่งที่รัฐบาลนี้ไม่กล้าทำ”


ถ้าให้สรุปอีกชั้น

 -เลิกใช้ “เสาไฟฟ้า” คัดคนจริง คนทำงานจริง มีความรู้ความสามารถจริง ไม่เล่นพรรคเล่นพวก ส่งทายาทมาสืบทอดทางการเมือง โดยคนไม่มีคุณภาพเพียงพอ (ถ้าดี มีคุณภาพ ก็ไม่ว่ากัน ผ่านการกลั่นกรองจากกรรมการสรรหาจริง)


จาก “พรรคพูด” → ไปสู่ “พรรคทำ-รายงานผล”

จาก “ภาพเก่า” → ไปสู่ “พรรคมีชีวิตชีวา มีดาวรุ่ง”

จาก “วาทกรรมเก่า” → ไปสู่ “สารที่ตรงกับปัญหาประชาชน”


ลองวาง “ภาพรีแบรนด์ใหม่” ของพรรคประชาธิปัตย์ (สมมติฐาน) ให้เห็นชัด ๆ กันเลย


ภาพลักษณ์ใหม่ (Brand Identity) สโลแกนใหม่:

เช่นเดิม: “เรามีอุดมการณ์ เราไม่โกง” มันเป็นแค่ defensive

ใหม่: “คิดใหม่ ทำจริง เพื่อคนไทยทุกคน” เป็นต้น ควรมีนักคิดให้สอดคล้องกับทิศทางทาง/แนวทางของพรรค


 • โทนสี/สัญลักษณ์:

 • จากสีฟ้าบาง เป็นสีฟ้าเข้มแบบอนุรักษ์ เพิ่ม ฟ้า-ขาว เน้นความโปร่งใส ทันสมัย สดใส

 

โลโก้ควรมีเส้นโค้ง/เอาวงกลมกลับมา สื่อถึง “ความร่วมมือ-เปิดกว้าง” ไม่ใช่ลอยๆ ตามที่ปรับแก้ใหม่ ไม่มีวงกลม


นโยบายเด่น (Policy Platform)


-เศรษฐกิจ: พรรคของ SME และเกษตรสมัยใหม่ → Digital SME Fund, Smart Farmer Academy


-สิ่งแวดล้อม: ผลักดัน Clean Air Act และ พลังงานสะอาด ให้เป็น agenda หลัก


-เยาวชน/แรงงานรุ่นใหม่: กองทุน reskill คนวัยทำงาน + Start-up support สำหรับคนรุ่นใหม่


ท้องถิ่น: Local First Policy → งบตรงถึงท้องถิ่นให้จัดการเอง ไม่ต้องผ่านระบบราชการส่วนกลาง (กระจายอำนาจจริง ไม่กั๊ก ไม่หวงอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง


ทีมบุคคล (Leadership Mix)

 -อาวุโส: ชวน / บัญญัติ → “ที่ปรึกษาพรรค” (Symbolic elder statesmen)

 -รุ่นกลาง: เช่น สาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นิพนธ์ บุญญามณี → เป็น “กุนซือ” ไม่ใช่ตัวนำ

 -ดาวรุ่ง เปิดตัวเป็น “หน้าใหม่ทีมปฏิรูปพรรค” อย่างน้อย 10 คน

 -คนรุ่นใหม่ในกรุงเทพฯ

 -นักวิชาการด้านเศรษฐกิจ/สิ่งแวดล้อม

 -ผู้นำท้องถิ่น/NGO ที่มีเครดิต

 -หัวหน้าพรรค: ควรเป็นคนรุ่นกลางที่มีภาพ “สะอาด + ทันสมัย” ไม่ใช่สายเก่าเต็มตัว


🔹 วิธีสื่อสาร (Communication Strategy)

 -ลงพื้นที่ + ทำจริง → เช่น ประกาศนโยบาย “Clean Canal Bangkok” แล้วลงมือทำ pilot project ทันที

 -Digital-first Party → พรรคต้องเล่น TikTok, Reels, X, Podcast ,เพจ,เวบไซต์ ให้เหมือน start-up มากกว่าพรรคเก่า


 -รายงานผลทุก 6 เดือน → ตั้งระบบ “Dems Report Card” ให้ประชาชนเช็กได้ว่า พรรคทำตามที่พูดแค่ไหน (Re-check)


ภาพทีม/แคมเปญ

 -โปสเตอร์ทีมใหม่: คนรุ่นใหม่ยืนแถวหน้า อาวุโสยืนแถวหลัง → สื่อว่า “ส่งไม้ต่อแล้ว”

 • คีย์เมสเสจ:

 1.เราไม่ใช่พรรคเก่า → เราเป็น พรรคเก่าแก่ที่รีสตาร์ทแล้ว

 2.ไม่ใช่แค่พูด → ทุกนโยบายต้องมีโครงการนำร่องทันที

 3.พรรคที่ใครก็เข้ามาได้ → Talent-based Party ใครมีผลงาน-ได้ขึ้นนำ


ถ้าทำแบบนี้ ภาพที่สื่อออกมาจะเปลี่ยนจาก “พรรคเก่าแก่ที่หมดไฟ” → ไปเป็น “พรรครีสตาร์ท ที่พร้อมเป็นทางเลือกจริง”


ยาวหน่อย แต่เป็นข้อเสนอที่ผ่านการศึกษากึ่งวิจัยมาแล้ว อ่านมามาก ฟังมามาก จนตกผลึกนำมาเขียนสรุปเป็นข้อเสนอสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ในยุค “ปฏิรูป”

 #นายหัวไทร

 #ประชาธิปัตย์ใหม่

 #ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โฆษณา


วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้