ตุลาการใหม่ ไม่สามารถร่วมพิจารณาคดี “อุ้งอิ๊ง”ได้
…..
เพื่อไทยกระตู้วู้ เป็นกระต่ายตื่นตูน แค่ได้อ่านข่าวว่า มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งหมดวาระแล้ว แต่ร่วมพิจารณาตัดสินคดีแพทองธารด้วย ร่วมลงมติด้วย 6:3 น่าจะไม่มีอำนาจพิจารณา
ถึงขั้นลงมือลายรายชื่อ สส.ให้ครบ 20 คน เพื่อยื่นให้ศาลตีความ แค่เป้าหมายสะกัด “อนุทิน ชาญวีระกูล-ภูมิใจไทย” มาเป็นรัฐมนตรี
โดยคิดเอาเอง และไปอ่านข่าวผิดๆมาขับเคลื่อนทางการเมืองว่า วันที่ 29 สิงหาคม มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งตุลาการรัฐธรรมนูญคนใหม่แล้ว (นายสราวุธ ทรงศิวิไล)และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้มีผลวันที่ 29 สิงหาคม
แต่ข้อเท็จจริง….มีการโปรดเกล้าลงมาจริง และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจริง แต่ให้มีผลในวันที่ 30 สิงหาคม ไม่ใช่วันที่ 29
และโดยกฎหมายก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการทุกคนจะต้องเข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนถึงจะปฏิบัติหน้าที่ได้
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 16 กำหนดให้ ก่อนเข้ารับหน้าที่ ตุลาการต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคํา
ดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี
ต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโดยปราศจากอคติทั้งปวง
เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชน และความสงบสุขแห่งราชอาณาจักร ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตาม
ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายทุกประการ”
จึงเท่ากับว่านายสราวุธ ยังไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อีกทั้งหากไม่ได้ร่วมพิจารณาคดีมาก่อน แม้จะมีการถวายสัตย์ฯแล้ว ก็ยังไม่สามารถร่วมเป็นองค์คณะพิจารณาวินิจฉัยได้
ด้านแหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญอีกคน ยืนยันว่าขณะนี้สำนักงานได้รับแจ้งว่ามีประกาศแต่งตั้งนายสราวุธ ทรงศิวิไล เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะมีประกาศแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ออกมาตรงกับวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยนั้น แต่ตามขั้นตอนต้องรอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ เข้าพิธีรัก่ถวายสัตย์ฯก่อนเข้าทำหน้าที่ จึงจะสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้
ดังนั้น คดีดังกล่าวตุลาการฯคนใหม่ จะไม่สามารถร่วมลงมติพิจารณาวินิจฉัยได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นตุลาการฯที่ร่วมพิจารณาคดีมาตั้งแต่ต้นหรือตั้งแต่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
ยังมีความพยายามสะกัดอนุทิน ถึงขั้นคิดว่าจะยุบสภา มีการเตรียมการไว้แล้ว ถ้าพรรคประชาชนมีมติหนุนอนุทินก็จะยุบสภาทันที
ยุบสภาคิดให้ดี คิดให้รอบคอบ อ่านกฎหมายให้แตก
-นายกฯรักษาการมีอำนาจยุบสภาหรือไม่
-รับฟังคำเตือนคำแนะนำคนอื่นบ้าง อย่าได้ยึดมั่นถือมั่นอยู่กับกรอบคิดของตัวเอง และ สทร.
-กล้ายุบสภา ก็ต้องกล้ารับผิดชอบ รับผิดชอบทางการเมือง และทางสังคม ทางกฎหมาย ที่จะมีคดีความตามมามากมาย และถ้าเลือกตั้งไปแล้ว ศาลตัดสินให้เป็นโมฆะ งบจัดการเลือกตั้ง 6000 ล้าน ใครรับผิด
-มีแนวทางปฎิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ห้ามนำเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อยุติขึ้นทูลเกล้า แน่นอนว่า เรื่องอำนาจการยุบสภายังไม่มีข้อยุติว่า นายกฯรักษาการ มีอำนาจหรือไม่
อย่าคิดแค่เอาชนะครับ ให้คิดถึงผลที่จะตามมาด้วย มันจะสร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง
#นายหัวไทร
#ยุบสภา
#ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน


