โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

คณะขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่จังหวัดยะลาร่วม สร้างสันติสุข ลดความรุนแรง ปรึกษาหารือสาธารณะ แสวงหาทางออกทางการเมือง

 คณะขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่จังหวัดยะลาร่วม สร้างสันติสุข ลดความรุนแรง ปรึกษาหารือสาธารณะ แสวงหาทางออกทางการเมือง













 เมื่อวันอังคาร ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2568 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมสัตตะภาคี ที่ทำการปกครองอำเภอยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา นางสาวกนกวรรณ ทองธรรมชาติ คณะขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่จังหวัดยะลา ได้จัดกิจกรรมเวทีรับฟังความคิดเห็น โดยนายมนตรี เศรษฐปัญโญู นายอำเภอยะหา ได้มอบหมายให้นายอุดม คงนาค ปลัดอำเภอเป็นประธานในการประชุม มีผู้เข้าร่วมจำนวน 60 คน ได้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอยะหา คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอยะหา ผู้นำท้องที่ตัวแทนประชาชน และเยาวชนกลุ่มต้นกล้าพันธุ์ใหม่ชายแดนใต้ 

  จากกิจกรรมในครั้งนี้ได้สร้างความเข้าใจ ได้รับฟังเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เสียงที่อยากให้ได้ยิน ซึ่งแบ่งออกเป็นประเด็นต่างๆดังนี้

    ปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุข ลดความรุนแรง ปรึกษาหารือสาธารณะ แสวงหาทางออกทางการเมือง

  ระยะเวลา11 ปีแห่งการพูดคุย เสียงสะท้อนจากประชาชนในมิติของความมั่นคง ไม่มีความก้าวหน้า ยังคงย่ำอยู่กับที่ในส่วนของพื้นที่ ชาวบ้านได้รับรู้น้อยมากกับการวางแผนดำเนินงานการแสวงหาทางออกทางการเมือง  รัฐบาลชุดปัจจุบันนำโดยนายกรัฐมนตรี นส.แพรทองธาร ชินวัตร ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาชายแดนใต้  มองไม่เห็นความสำคัญของการสร้างความมั่นคงแห่งชาติ 



ขอให้มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ยกระดับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางอาหาร ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนให้มีศักยภาพ ดูแลการศึกษาของเยาวชน  ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียม  มีอาชีพ มีรายได้ลดอัตราการว่างงาน การมอบนโยบายลงมายังหน่วยงานต่างๆ ขอให้มุ่งเน้นการพัฒนาคน มากกว่าพัฒนาโครงสร้างทางวัตถุ

  การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม เสริมสร้างความรู้ให้เข้าถึงทุกกลุ่มคน ชนชั้นตามหลักสิทธิมนุษยชน เปิดโอกาสในการมีส่วนร่วมมากขึ้นในทุกมิติ การพัฒนาในระดับนโยบายต้องฟังเสียงคนในพื้นที่ มุ่งพัฒนาตั้งแต่ระดับรากหญ้า 

   การรักษาเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลต้องเข้าใจถึงรากเหง้าของปัญหา ความเข้าใจให้ตรงกัน ประวัติศาสตร์คือจุดเริ่มต้นของพื้นที่ ไม่ควรเปิดบาดแผลใหม่ แล้วไม่แจงวิธีรักษา  รณรงค์สร้างความเข้าใจให้ถึงรากเหง้าของปัญหา วางแนวทางแก้ไขปัญหาโดยการใช้วิธีทางการเมืองนำเข้าสู่กระบวนการพูดคุย เน้นภารกิจด้านความมั่นคง การศึกษา เศรษฐกิจและสาธารณสุข

   การสร้างให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีความรู้ความเข้าใจในข้อมูลที่ไม่ถูกบิดเบือน จะช่วยลดโอกาสในการถูกชักจูงให้หลงผิด ให้โอกาสในการใช้ชีวิตด้วยการสร้างความตระหนักในความสำคัญของสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติต่อกันด้วยความเท่าเทียมเพื่อลดช่องว่างของความขัดแย้ง การสร้างสันติวิธีอย่างแท้จริง

   การอำนวยความเป็นธรรมต้องได้รับความยุติธรรม ไม่เอนเอียง การใช้ความรุนแรงเป็นการสร้างปัญหาทับซ้อน ให้เกิดกับครอบครัวของผู้หลงผิด ซึ่งเมื่อเกิดความไม่เข้าใจหรือเข้าใจไม่ตรงกันจะส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อครอบครัวและผู้เกี่ยวข้อง 

  ข้าราชการคือประชาชน ในพื้นที่เกิดเหตุความไม่สงบ หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยต่อสถานการณ์ว่าที่แท้จริงเกิดจากอะไร เมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ กระทบด้านต่างๆเกิดขึ้นมากมายส่งผลให้ภูมิต้านทานของชุมชนต่ำลง   ปัญหายาเสพติดในพื้นที่มีสูงมาก เยาวชนถูกมองข้าม ถูกละเลย ดีตรา ลดทอนคุณค่า ทำให้บางคนเดินเข้าหาสิ่งเสพติดเพียงเพื่อเรียกร้องพื้นที่ของตนเอง เกิดปัญหาลักขโมย โจรครองเมือง สังคมไม่ให้ความสำคัญของการแก้ปัญหาอย่างจริงใจ จริงจัง เศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่ เสียงสะท้อนจากผู้เสพเองบอกว่าจะให้แก้ปัญหาอย่างไรในเมื่อนายใหญ่ค้าเสียเอง

  กระบวนการยุติธรรมบ่งบอกอัตลักษณ์ของพื้นที่ การวางนโยบายจากบนสู่ล่างไม่ตอบโจทย์ต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่ ข้าราชการการเมืองต้องไม่รังแกข้าราชการประจำ ไม่กวนมีการโยกย้ายตามใจชอบใช้อำนาจตามอำเภอใจ 

  สมาชิกในที่ประชุมทุกเสียงขอยืนยันว่า ศาสนาไม่ได้ส่งผลให้เกิดความแตกแยก ทุกคนให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกัน ยังมองไม่เห็นเส้นทางของเอกราชเพราะแม้แต่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เองก็ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตและครอบครัว หากแข็งเกินไปก็ไม่พอใจ หากอ่อนเกินไปก็หาว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือการละเมิดสิทธิของพี่น้องประชาชน การบิดเบือนคำสอนของศาสนา ขอให้ใช้หลักการสร้างสันติสุขเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหา แก้ปัญหาด้วยการพูดคุย โดยการพูดความจริงที่ไม่สะท้อนกลับด้วยความไม่ปลอดภัยในชีวิต 

  รัฐพึงเคารพไว้ซึ่งสิทธิในการแสดงความคิดเห็นภายใต้รัฐธรรมนูญ วงพัฒนาให้ความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนอย่างเท่าเทียม ลดอคติต่ออุดมการณ์ทางการเมืองที่เห็นต่าง ทุกฝ่ายไม่สร้างประเด็นการแบ่งแยก ชีวิตต้องได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนการพัฒนาครอบครัว สังคม ศาสนาและวัฒนธรรม มองปัญหาและเริ่มแก้ไขจากจุดเล็กๆไปยังจุดใหญ่ ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ เพื่อให้มีรายได้ ไม่ให้หลงผิด

  การวางระบบเศรษฐกิจฐานรากให้ดีขึ้น ยกระดับการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง

  หากสามารถแก้ปัญหาให้ยาเสพติดหมดจากพื้นที่ได้เมื่อไหร่ ปัญหาอื่นๆก็จะไม่เกิดขึ้น ทุกภาคส่วนควรแก้ปัญหาให้ตรงจุด เจ้าหน้าที่รัฐวันบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ภาคประชาสังคม ฟังเสียงประชาชน เด็กและเยาวชน ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดี ลดความรุนแรง ความไม่สงบในพื้นที่ การรับฟัง การเป็นกลาง ความยุติธรรม จะสามารถแก้ปัญหาความรุนแรง จังหวัดระแวงระหว่างรัฐกับกลุ่มผู้เห็นต่างได้  การให้ความรู้กับเยาวชนต้องไม่ละทิ้งศาสนา ทุกศาสนาต้องอยู่คู่กับสังคมไทย ส่งเสริมการเรียนรู้สายสามัญควบคู่กับศีลธรรม เรียกร้องให้มีวิชาการงานพื้นฐานอาชีพ ลูกเสือ เกษตร เพื่อส่งเสริมทักษะในทุกๆด้าน ให้เด็กกลับมาเรียนร่วมกัน ไม่แยกปลาออกจากน้ำ ไม่ต้องแยกโรงเรียนพุทธ-มุสลิม

  ครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญ จุดแรกที่ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลลูกหลาน เด็กส่วนใหญ่ติดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการเสพสื่อผิดประเภทก็ส่งผลเสียต่อเด็กและเยาวชน เกม พนันออนไลน์ มีผลต่อสุขภาพจิตรุนแรงกว่าที่คิด

  ตามแผนการเสริมสร้างสันติสุขปี 2568 การจับกุมและดำเนินคดีมีสถิติลดลง ร้อยละ 15.72 แต่สถานการณ์จริงยังคงมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ยาบ้าขึ้นอันดับ 1 ในปี 2567 มีจำนวน 7,983 คดี แต่ในปี 2566 มีมากถึง 9,555 คดี  ซึ่งจากการรายงานแจ้งว่าจำนวนคดีมีลดลง แต่ในความเป็นจริงแล้วยังคงสูงขึ้น มีผู้ค้ารายใหม่เกิดขึ้นมากมาย เด็กและเยาวชนที่ขาดความรู้ ขาดทักษะ ประสบการณ์การใช้ชีวิต ถูกหลอกให้เป็นเด็กวิ่งยาในชุมชน ความจริงที่เกิดขึ้นคือเราไม่สามารถหยุดยั้งยาเสพติดได้ หากกฎมายไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน ไม่เลือกปฏิบัติ สร้างผู้สืบให้กลายเป็นผู้ป่วย รักษาตัวแล้วกลับมาเสพ ขายใหม่ ศูนย์บำบัดยาเสพติดหลายที่กลายเป็นพื้นที่สร้างเครือข่ายขยายผู้ค้า เมื่อแจ้งทางเจ้าหน้าที่ มีการพบผู้ค้าผู้เสพยาเสพติด บางที่อ้างว่าจะมีผลกระทบต่อการทำรายงานตัวชี้วัด บางรายก็มองว่าไม่ใช่พื้นที่บ้านเกิดของตนเอง มองข้ามละเลย ซึ่งการกระทำเช่นนี้ส่งผลให้ประชาชนหมดศรัทธา ต้องหันมาพึ่งตนเอง

#เสียงที่ไม่ได้ยิน

#ฟังให้ได้ยินในสิ่งที่เขาไม่ได้พูด

   ขอบคุณคณะขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่จังหวัดยะลา ที่เข้าร่วมหนุนเสริมกิจกรรมในครั้งนี้

  นายชานนท์  เจ๊ะหามะ

  นายอับดุลปาต๊ะ ยูโซะ

  นายไพศาล    มะแซ

  นางสาวจริยา จันทร์เทพ

  นางสาวรุจิรดา วงศ์แก้ว

   คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอยะหา

    ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอยะหา

    เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนอำเภอยะหา

    ฝ่ายปกครองพื้นที่หมู่ 2 ตำบลยะหา

    เยาวชนต้นกล้าพันธุ์ใหม่ชายแดนใต้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น