โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2567

คณะกรรมการบริหารประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายต่อพรรคด้วยการลาออก เปิดทางดีเอ็นเอพันธุ์แท้เข้ามาฟื้นฟูพรรค

 คณะกรรมการบริหารประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายต่อพรรคด้วยการลาออก เปิดทางดีเอ็นเอพันธุ์แท้เข้ามาฟื้นฟูพรรค

…..




“เละเทะ” เป็นคำสบทมาจากระดับนำของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดปัจจุบัน อันเป็นการพูดตัวต่อตัวแล้วนำมาบอกเล่ากันต่อ


ว่า “เละเทะ” เกิดจากการที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์มีมติร่วมกันนำพาพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่า เป็นการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ผลที่ออกมาก็จะเป็นพันธุ์ทาง และสองพรรคนี้ถือว่าเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง เจตนารมย์ อุดมการณ์แตกต่างกันชัดเจน เป็นคู่ต่อสู้กันมาทางการเมืองร่วม 20 ปี นับตั้งแต่การก่อเกิดเป็นพรรคไทยรักไทย


รับรู้กันเป็นการทั่วไปว่า ท่าทีของกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ตั้งเป้า “ร่วมรัฐบาล” ต้องเป็นรัฐบาลมนตรี มีการติดต่อสื่อสารกันในทางลับมาโดยตลอด

“เละเทะ”มาจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เสียงขร่มด่าอย่างรุนแรงของแฟนคลับประชาธิปัตย์เอง และเชียง 4 สส.ที่ยืนหยัดในอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ืนำโดย “ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ และสรรเพชญ บุญญามณี ที่ถือว่าเป็นดีเอ็นเอของพรรคประชาธิปัตย์คัดค้านการร่วมรัฐบาล


”พอกันทีพรรคนี้ ไม่เอาแล้ว ไม่เลือกแล้ว เลือกตั้งครั้งหน้าสงสัยสูญพันธุ์ ครั้งหน้าต่ำสิบ“ นี้คือโดยสรุปของเสียงวิจารณ์เสียงขร่มด่า บางคนใช้คำที่รุนแรงกว่านี้มาก ที่ไม่อาจยกขึ้นมาเขียนได้ เพราะหยาบเกินบรรยาย


ยังไม่เห็นคลิปคำชมในความกล้าหาญของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์เลยแม้แต่น้อย มีแต่คลิปตำหนิติเตียนรุนแรงอย่างไม่ไว้หน้า


กรรมการบริหารพรรค หรือผู้อำนวยการพรรคก็รับรู้ได้ถึงปรากฏการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อข่าวการร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ถูกเผยแพร่บนเพจทางการของพรรค แฟนคลับ เกรียนคีย์บอร์ดก็เข้าไปถล่มเละ จนต้องสั่งปิดการแสดงความคิดเห็น เมื่อกลับมาเปิดใหม่ในวันรุ่งขึ้น ก็โดนถล่มเละเช่นเดิม จนต้องปิดการแสดงความคิดเห็นอีกรอบ ทั้งๆที่หน้าเพจระบุชัดว่า “รับฟังทุกความคิเห็น ทุกข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาปรับปรุงพรรค”


น่าสนใจข้อเรียกร้องหนึ่ง “กรรมการบริหารพรรคชุดนี้จะรับผิดชอบต่อความเสียหายต่อพรรคอย่างไร เพราะถือว่า สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ ทำให้พรรคตกต่ำสุดขีด”


มีข้อเรียกร้องให้กรรมการบริหารพรรคชุดนี้รับผิดชอบ “ด้วยการลาออกทั้งคณะ เปิดทางให้ประชาธิปัตย์พันธุ์แท้ หรือดีเอ็นเอของประชาธิปัตย์เข้ามาบริหาร และฟื้นฟูพรรค”


ดีเอ็นเอของประชาธิปัตย์ อย่างเช่น ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ นิพนธ์ บุญญามณี สรรเพชญ บุญญามณี สาทิตย์ ปิตุเตชะ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย และแกนนำในแต่ละภาคอีกมากมาย แม้กระทั้งวทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ คุณหญิงกัลยา โสภณพาณิชย์ หรือแม้กระทั้งสุเทพ เทือกสุบรรณ สุทัศน์ เงินหมื่น สายพันธุ์ของตระกูลแก้วทอง /ไชยนันท์ หรือแม้กระทั้ง “แจ็ค-วัชระ  เพ็ชรทอง”

ถึงแม้นจะถูกมองว่า เป็นคนแก่ ไม่ทันสถานการณ์ แต่ไม่ควรลืมว่า บุคคลเหล่านี้ คือ ตักศิลาืคือดีเอ็นเอ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เขาอยู่กันมา 30-40-50 ปี คือบุคคลที่มีศักยภาพในการกลับมาฟื้นฟูพรรคได้


แม้หลายคนจะบอกว่า ถึงเวลาล่มสลายของประชาธิปัตย์ แต่สำหรับมวลสมาชิกประชาธิปัตย์พันธุ์แท้ยังเชื่อว่า “ประชาธิปัตย์ยังไม่ตาย” เพียงแค่รอเวลาล้มสลายของระบอบทักษิณ“ ที่ยังเข้ามาครอบงำการเมืองไทยอยู่ ระบอบทักษิณเข้ามาบนพื้นฐานของความแค้น หวังเอาคืน ”ลุงป้อม“ พล.อ.ประวิตร์ วงษ์สุวรรณ เอาคืน ”ชวน หลีกภัย“ และแก้แค้นทุกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม


เพียงแต่ความหิวกระหายของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ เดินเข้าทางตีนของระบอบทักษิณ ที่เขามีเป้าหมายทำลายอยู่แล้ว แต่เชื่อเถอะว่า เมื่อถึงเวลาหนึ่งระบอบทักษิณจะล่มสลายไปด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งรัฐประหาร ถึงวันหนึ่งความเสื่อมจะมาเยือนอย่างรวดเร็ว และถึงวันนั้น กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ก็จะตกอยู่ในชะตากรรมร่วม

เวลานั้นแหละ คือเวลาที่ดีเอ็นเอประชาธิปัตย์ จะเข้ามาฟื้นฟูประชาธิปัตย์ต่อไป แม้จะเหลือแต่ซาก แต่จิตวิญญาณ อุดมการณ์ประชาธิปัตย์ยังไม่ตาย ยังแทรกซึมอยู่ในร่างกายที่มีวิญญาณประชาธิปัตย์ ที่พร้อมจะกลับมา และยื่นหยัดอย่างสง่าผ่าเผย ในวันที่ระบอบทักษิณล่มสลายแล้ว

 เอาใจช่วย และเป็นกำลังใจให้กับทุกอนูของการต่อสู้ เจ็บบ้าง ปวดบ้าง เป็นธรรมดาของนักรบ นักรบต้องมีบาดแผล

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น