โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สุดอั้น…!"พิธา" ยอมรับโอนหุ้นสื่อ ITV แล้ว ยันพร้อมแจง กกต.

 สุดอั้น…!"พิธา" ยอมรับโอนหุ้นสื่อ ITV แล้ว  ยันพร้อมแจง กกต.  

….


"พิธา" ยอมรับโอนหุ้นสื่อ ITV แล้ว  ยันพร้อมแจง กกต.  


เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยอมรับแล้วว่า มีการโอนหุ้นสื่อ ITV ของตนเองแล้ว และมีความพร้อมที่จะชี้แจงต่อ กกต.


ประเด็นถือหุ้นไอทีวีของพิธา คงต้องรอ กกต.ว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร จะยกคำร้อง หรือจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน


หุ้นไอทีวี เป็นประเด็นที่กระทบต่อการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ยิ่งถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไอทีวี ยังอยู่ และยังผลิตสื่ออยู่ จะยิ่งเป็นอุปสรรคต่อพิธา ในการก้าวเดินต่อไป

-ข้อต้องห้ามการลงสมัคร ส.ส.ห้ามเป็นเจ้าของ หรือถือหุ้นสื่อ

-ข้อบังคับพรรคก้าวไกล ห้ามสมาชิกพรรคเป็นเจ้าของสื่อ และถือหุ้นสื่อ

-พิธาถือหุ้นไอทีวีมาตั้งแต่ปี 2549 หลังพ่อเสีย หุ้นก้อนนี้ก็ตกทอดมาถึงทายาท

-ปี 2562 พิธาลงสมัคร ส.ส.มาแล้วครั้งหนึ่ง และได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ การถือหุ้นไอทีวีของพิธาจะกระทบถึงการเป็น ส.ส.ปี 2562 หรือไม่

-พิธาไม่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เป็นหัวหน้าพรรคได้หรือ

-พิธาเซ็นรับรองผู้สมัครทั้งเขต และบัญชีรายชื่อ จะถือเป็นโมฆะหรือไม่

-ผู้สมัครก้าวไกลทีีมีคะแนนนำ จะได้เป็น ส.ส.หรือไม่

-คะแนนพรรคจะสามารถเอามาคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกลได้หรือไม่

      เหล่านี้เป็นประเด็นคำถามทั้งสิ้น ยังไม่นับรวมเรื่องรัฐธรรมนูญอีกหลายมาตรา ตัวอย่างเช่น


1) การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 นั้น ดำเนินการก่อนปิดรับสมัคร ส.ส. ซึ่งพิธาถือหุ้นไอทีวีอยู่


2) มาตรา 89 (2) ผู้ได้รับการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นรัฐมนตรีตามมาตรา 160


3) มาตรา 160 (6) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98


4) มาตรา 98 (3) ห้ามผู้สมัคร ส.ส.เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ


ดังนั้น ถ้าตีความตามนี้ก็น่าจะถือว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันปิดรับสมัครตามมาตรา 88 ในวันที่ 4-7 เมษายน 2566 แล้วครับ (ตามความเห็นของ สว.สมชาย แสวงการ)


แต่หนทางที่ถูกต้องชอบธรรมที่สุดคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่สรุปส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้เป็นที่ยุติครับ คำวินิจศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่สุด คำวิฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร

 #นายหัวไทร

….

"พิธา" ยอมรับโอนหุ้นสื่อ ITV แล้ว  ยันพร้อมแจง กกต.  


เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยอมรับแล้วว่า มีการโอนหุ้นสื่อ ITV ของตนเองแล้ว และมีความพร้อมที่จะชี้แจงต่อ กกต.


ประเด็นถือหุ้นไอทีวีของพิธา คงต้องรอ กกต.ว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร จะยกคำร้อง หรือจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน


หุ้นไอทีวี เป็นประเด็นที่กระทบต่อการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ยิ่งถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไอทีวี ยังอยู่ และยังผลิตสื่ออยู่ จะยิ่งเป็นอุปสรรคต่อพิธา ในการก้าวเดินต่อไป

-ข้อต้องห้ามการลงสมัคร ส.ส.ห้ามเป็นเจ้าของ หรือถือหุ้นสื่อ

-ข้อบังคับพรรคก้าวไกล ห้ามสมาชิกพรรคเป็นเจ้าของสื่อ และถือหุ้นสื่อ

-พิธาถือหุ้นไอทีวีมาตั้งแต่ปี 2549 หลังพ่อเสีย หุ้นก้อนนี้ก็ตกทอดมาถึงทายาท

-ปี 2562 พิธาลงสมัคร ส.ส.มาแล้วครั้งหนึ่ง และได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ การถือหุ้นไอทีวีของพิธาจะกระทบถึงการเป็น ส.ส.ปี 2562 หรือไม่

-พิธาไม่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เป็นหัวหน้าพรรคได้หรือ

-พิธาเซ็นรับรองผู้สมัครทั้งเขต และบัญชีรายชื่อ จะถือเป็นโมฆะหรือไม่

-ผู้สมัครก้าวไกลทีีมีคะแนนนำ จะได้เป็น ส.ส.หรือไม่

-คะแนนพรรคจะสามารถเอามาคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อก้าวไกลได้หรือไม่

      เหล่านี้เป็นประเด็นคำถามทั้งสิ้น ยังไม่นับรวมเรื่องรัฐธรรมนูญอีกหลายมาตรา ตัวอย่างเช่น


1) การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 นั้น ดำเนินการก่อนปิดรับสมัคร ส.ส. ซึ่งพิธาถือหุ้นไอทีวีอยู่


2) มาตรา 89 (2) ผู้ได้รับการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นรัฐมนตรีตามมาตรา 160


3) มาตรา 160 (6) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98


4) มาตรา 98 (3) ห้ามผู้สมัคร ส.ส.เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ


ดังนั้น ถ้าตีความตามนี้ก็น่าจะถือว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันปิดรับสมัครตามมาตรา 88 ในวันที่ 4-7 เมษายน 2566 แล้วครับ (ตามความเห็นของ สว.สมชาย แสวงการ)


แต่หนทางที่ถูกต้องชอบธรรมที่สุดคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่สรุปส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้เป็นที่ยุติครับ คำวินิจศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่สุด คำวิฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร

 #นายหัวไทร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น