โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2566

เขต 8 เมืองคอน ผู้สมัครบางคนถูกถอดสายน้ำเกลือแล้ว ลุ้น “สุนทร”ชิงกันเข้าวินกับ “น้องบีท” ;นายหัวไทร

 เขต 8 เมืองคอน ผู้สมัครบางคนถูกถอดสายน้ำเกลือแล้ว ลุ้น “สุนทร”ชิงกันเข้าวินกับ “น้องบีท” ;นายหัวไทร






แม้ชื่อของ เชาวศิลป์ บุญประเสริฐ (รองโข่ง) จะปรากฏเป็นกระแสอยู่ระยะหนึ่งกับการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 8 นครศรีธรรมราช (ฉวาง-นาบอน-ช้างกลาง-พิปูุน) ในนามพรรคเพื่อไทย ก็ต้องยอมรับความจริงว่า กระแสพอใช้ได้ และโพลบางสำนักยกให้อยู่อันดับ 1 เมืีอบวกกับกระแสเพื่อไทยทั่วประเทศ ยิ่งส่งแรงบวกให้รองโข่งมากขึ้น และต้องเข้าใจตรงกันนะว่า ภาคใต้ไม่ใช่ฐานที่มั่นของเพื่อไทย แม้ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” จะลงไปคลุกอยู่ในพื้นที่นครศรีธรรมราชหลายครั้ง แต่ไม่น่าจะช่วยอะไรก็ได้มากนัก แต่คะแนนพรรคคงมีทุกเขต

แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน การเมืองก็เปลี่ยน ฝ่ายคู่แข่งงัดกลยุทธ์ ขุดวิชาขึ้นมาใช้ น่าจะทำให้กระแสเสียงของรองโข่งแผ่วลงไปบ้าง เมื่อกระสุนไม่พอ กระแสก็ไม่เกิด ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า การออกเดินพบปะพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งแบบ “หามรุ่งหามค่ำ” และค่ำไหนนอนนั้น (นอนวัด) ของสุนทร รักษ์รงค์ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ คู่ไปกับการตั้งวงพูดคุยแลกเปลี่ยนในสไตล์ที่ถนัด ยิ่งทำให้กระแสเสียงของสุนทรค่อยๆขยับตัวมาดีขึ้น พูดได้ว่าน่าจะอยู่อันดับ 1 แล้วเวลานี้


ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งความพร้อมของพรรค และตัวผู้สมัคร สุนทรบุกหนักทั้งงานจัดตั้งแกน งานด้านสื่อ และโครงการสุนทรนอนวัด 21-25 เมษายน ที่เดินเท้าขอคะแนนถึงบ้านตอนกลางวัน ถึงเวลากลางคืนจัดเวทีเสวนาที่วัด เพื่อรับฟังปัญหา ความต้องการของชาวบ้าน และรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำไปเสนอพรรคเพื่อทำนโยบายเชิงพื้นที่ 


ถ้าสุนทรใช้วิชาที่ถนัดแบบเต็มแม๊ก เดินเท้าทุกชุมชน เพื่อขอคะแนนเสียง เปิดเวที่ย่อย-เวทีใหญ่ ให้ครบทั้ง5 อำเภอ 


พรรคภูมิใจไทย มุกดาวรรณ ม้าตีนต้นเริ่มแผ่ว น่าจะมีปัญหาเรื่องท่อน้ำเลี้ยงร่างกายขาดน้ำเกลือ ย่อมอ่อนเพลียเป็นธรรมดา


กล่าวสำหรับเขตนี้ ก็ไม่ควรมองข้าม “น้องบีท” -ปุณณ์สิริ บุณยะเกียรติ์ จากประชาธิปัตย์ ลูกสาวชินวรณ์ ก็เชื่อว่า ชิณวรณ์จะต้องออกแรงหนัก เพื่อดันน้องบีทให้แจ้งเกิดทางการเมือง “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” ในฐานะเคยเป็น ส.ส.เขตนี้มาก่อนก็ต้องจับมือ “ชิณวรณ์” ช่วยน้องบีทอีกแรง เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า แต่ต้องแก้ให้ได้กับกระแสไม่เอาประชาธิปัตย์ ไม่เอาการสืบทอดสู่ทายาท เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า 

เขต 8 ก็ต้องจับตาคนรุ่นใหม่”เรขา ปรีชาวัย” ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า กระแส “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในภาคใต้นั่นยังเหนียวแน่นอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มคนอายุ 60-70 ยังเอาลุงตู่อยู่

ย้อนกลับไป 2531 พ่อของเรขาเคยลง ส.ส.ผ่านมา 35 ปี ลูกเข้ามารับบทบาทนี้ต่อแล้ว

“ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กพ่อมักสอนให้เราคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ บนเส้นทางการเมืองของพ่อ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ หากแต่พ่อได้ทิ้งความทรงจำอันงดงาม และแสนจะยิ่งใหญ่ ว่าวันหนึ่งถ้าเรามีโอกาสที่จะได้ทำเพื่อคนอื่นเพื่อพี่เพื่อน้องเพื่อบ้านเกิดต้องรีบทำ และเราจะต้องไม่ลังเลที่จะทำอย่างเต็มที่ และดีที่สุด วันนี้มีโอกาสเข้ามาหาลูกสาวคนโตของพ่ออีกครั้งแน่นอนที่สุดลูกสาวพ่อคนนี้รีบคว้าโอกาสนี้ไว้” เรขา กล่าว

สถานการณ์เวลานี้ต้องยอมรับความจริงว่า เรขายังเป็นรองอยู่อีกหลายขุม ต้องออกแรงอีกมาก พรรคก็ต้องส่งแรงหนุนเข้าไปช่วยถึงจะเดินไปสู่เป้าหมายได้


โดยสรุปเขต 8 จะเป็นการชิงดำกันระหว่าง “สุนทรกับบีท” แน่นอน สุนทรเดินมาถูกทางแล้ว แต่พรรคต้องส่งเสบียงกรังเข้าไปช่วยมากกว่านี้ แค่เสธฯบางคนเข้าไปจัดการ “ไม่พอครับ”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น