โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2565

“สมคิด” เจอมวยเด็กค่ายพระแม่ธรณีสวนปลายคางน็อคคา “โพรเดี่ยม”

 “สมคิด” เจอมวยเด็กค่ายพระแม่ธรณีสวนปลายคางน็อคคา “โพรเดี่ยม”




…… #นายหัวไทร


คงจะเป็นประเด็นร้อนไปอีกสักพัก สำหรับวาทะกรรมทางการเมืองของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ประธานยุทธศาสตร์พรรคสร้างอนาคตไทย และคาดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคสร้างอนาคตไทย กับการพูดบนเวทีสัมมนา “อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง” ที่ จ.ภูเก็ต โจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยระบุว่า “ภาคใต้มี ส.ส.มาตลอด ส.ส.ทำอะไร ผมนั่งอยู่ใน ครม.ไม่ได้ยินสักแอะเลย หรือเป็นเสาไฟฟ้า มีแต่ประกันรายได้ ประกันทั้งปีเลย ของหมูๆ อย่างนั้นใครๆ ก็ทำได้ ว่าจะไม่ว่าแล้วเชียว" 

      แน่นอนว่าในทางการเมืองก็ต้องชกเสยคางแชมป์อย่างประชาธิปัตย์ ภูเก็ตเป็นถิ่นเดิมของประชาธิปัตย์ แต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถูกพรรคพลังประชารัฐยึดไปทั้งสองเขตเลือกตั้ง ภูเก็ตจึงกลายเป็นสนามเลือกตั้งที่หลายพรรคหวังเข้าไปแย่งชิง ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ได้ข่าวว่าพรรคชาติพัฒนาของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลพ ก็ซุ้มเงียบเก็บตัวฟิตซ้อมอยู่เหมือนกัน เตรียมประกาศท้าชกในไม่นานนี้ หลังจากเสี่ยสุวัจน์ไปซุ่มลงทุนทำธุรกิจอยู่ในภูเก็ตเหมือนกัน

     คำพูดของ “สมคิด” มันทิ่มแทงยอดอกของประชาธิปัตย์ตรงๆ เสือปืนไวอย่าง “แจ็ค” วัชระ เพชรทอง” อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ออกโรงตอบโต้สมคิดแต่เช้า “สมคิดไปนอนห้าวอยู่ที่ไหน จึงไม่ได้ยิน สส.ใต้พูด และเป็นการปรามาท สส.ใต้ว่าเป็นวัตถุเสาไฟฟ้า ไม่มีชีวิตจิตใจ วัชระออกโรงไล่สมคิดให้กลับไปเลี้ยงลูกคนเล็กดีกว่า

       สัมทับด้วย “แทน” ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ว่า นายสมคิด คงไม่ทราบว่า นโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ผลตรงตามที่ทางพรรคฯ ตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยมีขั้นตอนน้อยที่สุด และรบกวนงบประมาณน้อยที่สุด ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ไม่มีปัญหาให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในภายหลัง ไม่เหมือนกับนโยบายที่นายสมคิด คิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ต่างมีปัญหาวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นอย่างมาก เช่น พักหนี้เกษตรกรรายย่อย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 1 แสนบาทนั้น ปรากฏว่า เป็นเพียงการไม่จ่ายหนี้ แต่ดอกเบี้ยกลับสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ และเกษตรกรผู้เข้าโครงการต้องกลายเป็นเหยื่อของหนี้นอกระบบ นโยบายกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยได้ ก็ถูกวิจารณ์ถึงการกู้ยืมเงินเพื่อไปซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยมาบำเรอความสุขของตัวเอง โดยเงินจำนวนดังกล่าวหมุนกลับไปยังกลุ่มทุนที่สนับสนุนรัฐบาลในเวลานั้น รวมถึง นโยบายที่มีการดำเนินการในปัจจุบัน เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะต้องมีการปรับหลักเกณฑ์ผู้ที่ได้รับสิทธิใหม่ เพราะมีหลายรายที่ควรจะได้สิทธิ์ แต่ก็ไม่ได้สิทธิ์ หลายรายที่จนไม่จริง แต่กลับได้ใช้สิทธิจริง 



"ผมอยากจะบอกนายสมคิดว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนคลุกคลีกับประชาชนเป็นอย่างมาก และทราบความต้องการของประชาชนว่าต้องการอะไร จนกลายมาเป็นนโยบายที่ประชาชนได้ประโยชน์ มีความยั่งยืน และไม่สร้างภาระทางการเงินของประเทศ ดังนั้น ผมขอให้นายสมคิด รอดูวันที่พรรคประชาธิปัตย์ จะได้เปิดนโยบายเพื่อใช้ในการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แล้วนายสมคิดก็จะรู้เองว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้แค่คิดแต่เพียงนโยบายประกันรายได้เกษตรกรเท่านั้น แต่คิดไปถึงการฟื้นฟูประเทศจากวิกฤตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ด้วย” นายชัยชนะ กล่าว

      วาทะกรรมทางการเมืองเหล่าไม่ควรหลุดออกมาจากปากของนักการเมืองอาวุโส ผ่านเวทีการเมืองมาช่ำชอง อวดอ้างตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ควรนำเสนอวิธีคิดของพรรค หรือของตัวเองในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ เศรษฐกิจรากหญ้า หรือฐานรากที่พูดนักพูดหน้า จะช่วยให้เขาพ้นจากปากเหวอย่างไร เศรษฐกิจมหภาพ การส่งออก การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม จะทำอย่างไร นำเสนอเป็นนโยบายให้ประชาชนพิจารณาอย่างมีปัญญา น่าจะดีกว่าพูดกระแนะกระแหน กระแทกแดกดันคนอื่น นึกว่าประชาชนชอบเหลอ

      เข้าใจได้ว่า ท้าชิงก็ต้องชกแชมป์ แต่การออกหมัดแบบนี้เจอมวยเด็กๆ สวนกลับเสยปลายคาง ไม่น็อคก็คางเหลืองคาโพรเดี่ยมแน่

 #นายหัวไทร #สมคิด #เสาไฟฟ้า

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น