“นิพนธ์” ร่วมประชุม
“รัฐมนตรีอาเซียน ด้านการจัดการภัยพิบัติ
ครั้งที่ 9” ผ่านระบบออนไลน์ ลั่นไทย
พร้อมรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติปี พ.ศ.2565
มุ่งพัฒนา หนุนความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติของอาเซียน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ ครั้งที่ 9 (The 9th ASEAN Ministerial Meeting on Disaster Management : The 9th AMMDM)
และการประชุมอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีสาธารณรัฐสิงคโปร์เป็นประธานการประชุมฯ
มีผู้เข้าร่วมการประชุมฯ
ประกอบด้วยผู้แทนระดับรัฐมนตรีด้านการจัดการภัยพิบัติจากประเทศสมาชิกอาเซียน
เลขาธิการอาเซียน เอกอัครราชทูตจีนประจำอาเซียน
เจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยงานด้านการจัดการภัยพิบัติของประเทศคู่เจรจา
(สาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศญี่ปุ่น)
ผู้บริหารระดับสูงจากองค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้นกว่า 80
คน
ในการประชุมดังกล่าว นายนิพนธ์ บุญญามณี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงของ ในหัวข้อ“Strengthening
Partnership and Innovation for Disaster Management in ASEAN” ได้เน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญในการหารือร่วมกันในการขับเคลื่อนงานด้านการจัดการภัยพิบัติของภูมิภาค
ได้แก่ การเก็บข้อมูลความเสี่ยง การบูรณาการความร่วมมือและสร้างความตระหนักในบทบาทและหน้าที่ของแต่ละภาคส่วนในการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม
การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนและติดตามการปฏิบัติงานตามแผนงาน
การจัดทำแผนงานและแผนปฏิบัติการในการรับมือภัยพิบัติในภูมิภาค และการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยคำนึงถึงเพศสภาวะและครอบคลุมประชากรในทุกกลุ่มร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งของความเป็นหุ้นส่วนและสนับสนุนการใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็ง
พร้อมรับมือภัยพิบัติตามเป้าหมายสำคัญของภูมิภาคอาเซียนที่มุ่งสู่การเป็นภูมิภาคที่มีภูมิคุ้มกันสามารถอยู่ร่วมกับภัยพิบัติได้อย่างยั่งยืน
นายนิพนธ์
กล่าวแสดงความพร้อมรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ ในปี
พ.ศ.2565 โดยกำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนงานระหว่างดำรงตำแหน่งประธานฯ คือ “BALANCING
ACT” เพื่อสนับสนุนนโยบายการพัฒนาที่สมดุลหลังโควิด –
19 และตอกย้ำถึงประเด็นเร่งด่วนที่ภูมิภาคให้ความสำคัญ
โดยเฉพาะการเตรียมการล่วงหน้าก่อนเกิดภัยพิบัติ
การคำนึงถึงเพศภาวะและประชากรทุกกลุ่ม การขับเคลื่อนหลักการกรุงเทพฯ
เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคสาธารณสุขจากภัยพิบัติ เป็นต้น
รวมถึงการเผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดีของอาเซียนในเวทีการประชุมระหว่างประเทศต่าง ๆ
รวมทั้งการประชุมระดับรัฐมนตรีแห่งเอเชียและแปซิฟิกว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
“ ประเทศไทยมีความพร้อม
มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติในปี
2565 และหวังว่าจะได้รับการต้อนรับทุกท่านในการประชุมในปี 2022
โดยจะสานต่องานที่ได้ริเริ่มเอาไว้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
และบรรลุเป้าหมายในการสร้างประชาคมอาเซียนที่ปลอดภัยอย่างสมดุล
โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง “ นายนิพนธ์ กล่าว
/////
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น