รถไฟนราธิวาส
เตรียมประเมินเพิ่มขบวนรถรับส่งผู้โดยสารทั้งขาขึ้นและขาล่อง ต้อนรับเทศกาลปีใหม่
ขณะที่พบปัญหาประชาชนใช้สิทธิ์บัตรบริการแห่งรัฐไปให้ญาติสวมสิทธิ์ในการเดินทางแทน
พร้อมเตือน เลิกพฤติกรรมก่อนเอาจริงทางกฎหมายเจ้าของบัตรถูกระงับ
ผู้เดินทางต้องซื้อตั๋วใหม่
นายมานพ เหมือนปรีชา นายสถานีรถไฟตันหยงมัส
อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า
ในช่วงระยะนี้เป็นช่วงที่ประชาชนอยู่ในห้วงของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
โดยในทุกภาคของประเทศไทยจะมีผู้คนใช้รถไฟกันเป็นจำนวนมากเพื่อเดินทางไปยังภูมิลำเนาของตนเองและเยี่ยมญาติมิตรสหายยังต่างจังหวัด
โดยในส่วนของสถานีรถไฟพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งมีขบวนรถไฟทั้งขาขึ้นสุไหงโก-ลก –
กรุงเทพฯและกรุงเพทฯ- สุไหงโก-ลก และขบวนท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่จะเน้นในเรื่องของความปลอดภัยของผู้โดยสารในการเดินทางดูแลในส่วนของการสำรองที่นั่งของประชาชนเป็นหลัก
ซึ่งถ้าหากมีประชาชนเดินทางกันเป็นจำนวนมากก็จะมีการประเมินแบบวันต่อวันว่าจะมีการพิจารณาเพิ่มตู้ขบวนมากน้อยแค่ไหนตามความจำเป็น
รวมทั้งมีการรายงานไปยังเบื้องบนทุกระยะว่ามียอดการเดินทางของผู้โดยสารในแต่ละวันหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน
โดยเฉพาะการเดินทางไปและกลับในห้วงวันที่ 31
ธันวาคม 2560 จนถึงวันที่ 2
มกราคม 2561
หากมียอดการเดินทางที่มากขึ้นก็อาจจะต้องเพิ่มจำนวนโบกี้รองรับการเดินทางให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในแต่ละวันไป
ในส่วนของการหมดเขตมาตรการการใช้รถไฟฟรีนั้นตามมาตรการของรัฐบาลนั้น
ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์บัตรแห่งรัฐช่วยคนจนแทน
ซึ่งทางสถานีพบว่ามีปัญหาประชาชนบางส่วนยังไม่เข้าใจว่าบัตรคนจนแห่งรัฐที่ทางรัฐบาลมอบให้ใช้แทนนั้น
ได้นำไปให้บุคคลอื่นหรือญาติไปใช้ในการเดินทางแทน ซึ่งทางสถานีรถไฟตันหยงมัส
อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้พยายามสร้างความเข้าใจกับประชาชนอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งหากทำเช่นนั้นท่านจะมีปัญหาในการเดินทางอย่างแน่นอน
เพราะถ้าให้สิทธิ์ของตนเองไปให้คนที่ไม่มีสิทธิ์ใช้ตามบัตรของผู้อื่นแทนนั้น
ถือว่าตั๋วโดยสารที่นำมาใช้โดยสิทธิ์ของผู้อื่นแทนนั้นเท่ากับบุคคลนั้นไม่มีตั๋วเดินทาง
ซึ่งทางการรถไฟมีมาตราการณ์ให้คนเหล่านี้ต้องซื้อตั๋วโดยสารใหม่พร้อมค่าธรรมเนียม
ซึ่งหากตรวจพบและถึงขั้นลงบันทึกประจำวันแล้ว
เจ้าของบัตรที่นำไปให้คนอื่นใช้สิทธิ์แทนอาจจะถึงขั้นเพิกถอนสิทธิ์นั้นทันที และอาจจะไม่สามารถใช้บัตรเหล่านั้นได้อีกต่อไป
จึงขอฝากเตือนสำหรับผู้ที่ใช้สิทธิ์บัตรบริการแห่งรัฐไม่สามารถที่จะนำไปให้บุคคลอื่นใช้แทนกันได้
หรือถ้าค่าโดยสารรถไฟมีราคาที่มากกว่ามูลค่าเงินในบัตร 500 บาท
ต่อคน ก็ยังสามารถเพิ่มเงินค่าเดินทางในส่วนต่างนั้นเป็นเงินสดได้
และอีกส่วนหนึ่งที่พบคือ
ตั๋วเดินทางของข้าราชการที่รัฐบาลออกให้นั้นไม่สามารถขอเรียกเงินคืนได้
เพราะผู้ใช้ไม่ได้เสียเงินเอง แต่รัฐบาลเป็นผู้ออกให้
หากท่านจองตั๋วเดินทางแล้วเกิดเลื่อนการเดินทางหรือเปลี่ยนใจไม่เดินทางในวันที่จองตั๋วการเดินทางนั้น
ไม่สามารถจะเรียกเงินคืนในส่วนนี้ได้ ยกเว้นเป็นความผิดพลาดของทางการรถไฟ เช่น
ขบวนรถไฟเที่ยวนั้นๆมีมีปัญหาในการเดินทาง
แต่จะให้เดินทางในขบวนรถไฟขบวนอื่นแทนในวันที่ท่านจองตั๋วการเดินทาง.
ขอบคุณข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น