เทศบาลเมืองนราธิวาส จัดงานประเพณีลอยกระทง
เน้นแต่งกายย้อนยุค ใช้สิ่งประดิษฐ์จากธรรมชาติทำกระทง
ดึงเยาวนสานต่อประเพณีและวัฒนธรรมไทย สู่คนรุ่นใหม่
ณ
สวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2560
โดยมีนางฟาตีเมาะ สะดียามู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์
นายกเทศมนตรี และคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ
ประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาปรอยๆ
นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ นายกเทศมนตรี
เทศบาลเมืองนราธิวาส กล่าวว่า
ประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
ของทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่มีชุมชนต่างๆที่อยู่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง
หรือแหล่งน้ำต่างๆซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจที่แตกต่างกันเพื่อแสดงความสำนึกบุฯคุณของน้ำที่ได้นำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
รวมทั้งขอขมาลาโทษในการทำให้แหล่งน้ำไม่สะอาด บูชารอยพระพุทธบาท
และบูชาเทพเจ้าตามคติความเชื่อ รักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา
และรู้ถึงคุณค่าของน้ำหรือแม่น้ำลำคลอง
อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของชาวไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ
ดังนั้นเพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์สืบทอดประเพณีลอยกระทงให้คงอยู่สืบไป
และส่งเสริมสัมพันธ์ภาพระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เยาวชน และชุมชน
เทศบาลเมืองนราธิวาส จึงได้จัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2560 ขึ้น
โดยมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ ขบวนแห่กระทลใหญ่ จำนวน 11 กระทง
โดยแห่ไปตามเส้นทางย่านธุรกิจ และชุมชนต่างๆในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส
การประกวดกระทงใหญ่ ประเภทอนุรักษ์ และประเภทสร้างสรรค์ การประกวดกระทงประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ
การประกวดนางนพมาศ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 สาธิตวิถีไทย
ชมและชิมอาหารพื้นบ้าน พิธีขอขมาพระแม่คงคา และลอยกระทง
ด้านนายสุรพร พร้อมมูล
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การจัดงานประเพณีลอยกระทงนั้น เป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราได้ปฏิบัติสืบทอดต่อๆกันมา
จนกลายเป็นวัฒนธรรมของชาติที่งดงาม
บ่งบอกถึงคุณค่าและลักษณะของความเป็นไทยอย่างแท้จริง
และเราทุกคนต่างมุ่งหวังให้เยาวชนรุ่นต่อๆไปมีการสืบสาน
และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็นชาติที่มีอารยธรรมมาตั้งแต่โบราณให้คงอยู่สืบไป
“สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักร่วมกันก็คือ
ในการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย
ต้องทำควบคู่กันไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะปัจจุบันแหล่งน้ำจากธรรมชาติ
ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของมวลมนุษยชาติ
จึงจำเป็นต้องช่วยกันดูแลอย่างดีที่สุด
ทุกฝ่ายต้องตระหนักให้ความร่วมมือจัดกิจกรรมรณรงค์คืนความสะอาด
ความสมบูรณ์ให้แก่แม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่างๆ
ร่วมกันรณรงค์ให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ง่ายในการประดิษฐ์กระทง
หลักเลี่ยงการใช้โฟมทำกระทง
หรือการใช้วัสดุอื่นๆที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบและอันตรายต่อแหล่งน้ำ”
ส่วนบรรยากาศในงานลอยกระทงของจังหวัดนราธิวาสในปีนี้
บรรดาผู้ผลิตและขายกระทงต่างพร้อมใจกันนำวัสดุธรรมชาติมาทำกระทงขายในราคาที่ไม่แพง
จึงได้รับความนิยมจากประชาชนต่างหันมาช่วยซื้อกระทงจากธรรมชาติ
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยสร้างรายได้คืนสู่พื้นที่
โดยประชาชนส่วนใหญ่จะนำครอบครัว ลูกหลายมาร่วมลอยกระทงกันเป็นครอบครัว
อีกทั้งเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ได้รับความนิยมจากกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยพุทธ
และชาวมุสลิมในพื้นที่ต่างมาเที่ยวและร่วมลอยกระทงกันเป็นจำนวนมากท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาปรอยๆอยู่ตลอดเวลา
และยังสร้างรางลอยกระทงลงแม่น้ำบางนรา
เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่มาร่วมงานอีกด้วย โดยทางเทศบาลเมืองนราธิวาส
ได้จัดสถานที่และประดับประดาด้วยดอกไม้รอบบริเวณงานอย่างสวยงามตลอดเส้นทาง
พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ อส.คอยรักษาความปลอดภัยตลอดจนเสร็จงาน.
ขอบคุณข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น