สตูล
เกษตรกรชาวเกาะหนึ่งเดียวยึดมั่นหลักเศรษฐกิจพอเพียงจนสำเร็จ(ชมคลิป)
วันที่3ตุลาคม2560ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวิรัตน์ ศรีโสภา
อายุ 47 ปี เกษตรกรเพียง 1 เดียวบนเกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล
ที่มีความคิดแหวกแนวไม่คิดทำอาชีพประมงเหมือนคนอื่น แต่เชื่อมั่นในศาสตร์ของพระราชา
น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงร.9 มาพลิกฟื้นผืนดินที่มีอยู่ 8 ไร่มาปลูกผัก
เลี้ยงปลา ปลูกพืชหมุนเวียน จนประสบผลสำเร็จสามารถนำผลผลิตออกจำหน่ายในเกาะทั้ง 3
หมู่บ้านมีรายได้ในแต่ละวัน900-1200 บาท ลูกเมียอยู่พร้อมหน้าชีวิตมีความสุข
นายวิรัตน์ เล่าให้ฟังว่าสมัยเด็กๆ
ตนเคยเรียนรู้อาชีพการปลูกผักมาจากพ่อแต่ก็แค่ปลูกได้
จากนั้นก็ไปทำงานรับจ้างที่ประเทศมาเลเซียซึ่งมีรายได้วันละ 500
บาทถือว่าเป็นรายได้ที่ดีทำมาหลายปีจึงนึกได้ว่าเราจะอยู่ที่มาเลเซียตลอดไม่ได้เพราะเราเป็นคนไทย
จึงคิดกลับบ้านจึงคิดว่าจะมาทำอะไรดี นึกได้ว่าคนเกาะไม่สนใจในเรื่องของการเกษตร
จนเริ่มกลับมาทำเกษตรใหม่เริ่มจากการพลิกผืนดินและปลูกพริกเป็นอันดับแรก
ปลูกพริก70-80 ต้นเก็บพริกได้วันละ 2 ก.ก
. จากนั้นเริ่มปลูกถั่วฝักยาว แตงกวา
อาศัยว่าผักที่ตนปลูกเป็นผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ
และมีความสดกว่าผักที่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลซื้อมาจากฝั่งเมื่อมาถึงเกาะก็เหี่ยวหมด
ช่วงนั้นคนเกาะได้กินผักสดตนมีรายได้วันละ200-300 บาท
ซึ่งถือว่าอยู่ได้แต่ยังไม่พอเนื่องจากมีภาระต้องส่งลูกเรียน
จึงได้พยายามศึกษาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงร.9
ศึกษาไปเรียนรู้ไปด้วยความเชื่อมั่นในพระองค์ท่านที่ทรงประทานให้กับประชาชนเชื่อมั่นว่าพระองค์ต้องการให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข
หลักปรัชญาของพระองค์ต้องทำให้ประชาชนมีสุขอย่างแท้จริงบนความพอเพียง
เมื่อตนมองถึงสัจธรรมความพอเพียงจึงคิดได้และลงมือทำ ทุกวันนี้ตนมีความสุขแล้ว
ความสุขที่ตนรับรู้ได้ด้วยตนเอง มีสุขได้ด้วยหลักความพอเพียง ทุกวันนี้เนื้อที่ 8 ไร่ ตนทำเพียง 5 ไร่เศษ
โดยทำเป็นแปลงเรียนรู้สำหรับผู้ที่ต้องการยึดหลักความสุขแบบพอเพียงเหมือนที่ตนได้รับ
ตนคิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว เนื้อที่ 5 ไร่ ปลูกปาล์มน้ำมัน ถั่ว พริก แตงกวา
ตะไคร้ ผักบุ้ง มะนาว เลี้ยงปลา
ปลูกพืชหมุนเวียนที่เก็บขายได้ทุกวัน
ชีวิตตนและครอบครัวมีความสุขบนหลักปรัชญาความพอเพียงที่ในหลวงร.9 ได้ชี้นำ
ถ้าเราไม่รู้จักพอ ชีวิตจะไม่มีความสุข
จากที่ทำเพื่อความอยู่รอดจนมีแรงบันดาลใจจากในหลวงล้มลุกคลุกคลาน 5 ปีแรก
ยังไม่สำเร็จ มองสัจธรรมของชีวิตไม่ออก
ถึงกับน้ำตาไหลเพราะความท้อแท้
แต่ตอนนี้เมื่อมองสัจธรรมของชีวิตออกแล้ว
รู้ว่าความสุขคืออะไร ตอนนี้ผักของตนมีเท่าไหร่ก็ไม่พอ
ขอเพียงเราไม่ท้อสู้ด้วยความเชื่อมั่นในพระองค์ว่าสิ่งที่ประทานให้ประชาชนคือความสุข
เราก็จะได้รับความสุขและเป็นความสุขอย่างยั่งยืนที่ตนประสบอยู่ทุกวัน
ขอบคุณ นิตยา แสงมณี // สตูล
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น