โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สตูล ฟาร์มหอยแครงรายใหญ่ในจ.สตูลกำลังประสบปัญหา น้ำเค็มกลายเป็นน้ำจืดหอยแครงที่เลี้ยงไว้กว่า 400 ล้านตัว ตายเกือบหมดทั้งฟาร์มวอนหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำติดต่อประสานงานก่อนปล่อยน้ำในช่วงน้ำตายเพราะกระทบเสียหายกว่า 10 ล้าน(ชมคลิป)

สตูล     ฟาร์มหอยแครงรายใหญ่ในจ.สตูลกำลังประสบปัญหา น้ำเค็มกลายเป็นน้ำจืดหอยแครงที่เลี้ยงไว้กว่า 400 ล้านตัว ตายเกือบหมดทั้งฟาร์มวอนหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำติดต่อประสานงานก่อนปล่อยน้ำในช่วงน้ำตายเพราะกระทบเสียหายกว่า 10 ล้าน(ชมคลิป)


        วันที่22ตุลาคม2560ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายทรงพล โง้วรุ่งเรือง อายุ 49 ปี ชาวจ.เพชรบุรี ซึ่งมาทำธุรกิจฟาร์มหอยแครงในจ.สตูล นำผู้สื่อข่าวไปดูฟาร์มหอยแครงเนื้อที่ 420 ไร่ ที่ตั้งอยู่ม.3 ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเมื่อใช้คราดๆหอยแครงที่เลี้ยงไว้ตามล็อคต่างๆพบว่าแทบทุกล็อคพบหอยแครงมีสภาพเปลือกนอกกลายเป็นสีดำ และมีกลิ่นเหม็น โดยนายทรงพล กล่าวว่าฟาร์มดังกล่าวเลี้ยงอยู่ประมาณ 4-5 ราย ทุกรายประสบปัญหาเหมือนกันหมด โดยหอยแครงดังกล่าวจะเก็บขึ้นจำหน่ายได้ในวันที่ 1 พ.ย. 60 นี้ เท่ากับว่าต้องเสียหายขาดทุนไปตามๆกัน เพราะหอยที่ใช้ได้มีเพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์และที่หนักกว่าคือต้องคราดหอยที่ตายออกไม่ต่ำกว่า10 ตันก็ยังไม่รู้ว่าต้องนำไปทิ้งที่ไหน

        นายทรงพล กล่าวด้วยว่าสาเหตุที่ทำให้หอยตาย น่าจะเกิดจากสภาพน้ำที่มีความเค็มลดลงหรือพูดง่ายๆว่ามีความเค็มเท่ากับศูนย์ เนื่องจากตนมีการตรวจวัดระดับความเค็มเป็นประจำ ซึ่งความเค็มปกติอยู่ที่ประมาณ 20-30 แต่ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เป็นต้นมาความเค็มอยู่ที่ระดับศูนย์ ซึ่งหมายถึงกลายเป็นน้ำจืด เนื่องจากน้ำจืดถูกปล่อยลงมามากนั่นเอง ซึ่งอาการแบบนี้ตนเป็นห่วงในช่วงที่ฝนตกน้ำท่วมหนักถึงหลายระลอกแต่ในช่วงดังกล่าวไม่มีปัญหาเพราะตรงกับช่วงน้ำใหญ่







      ที่น้ำสามารถไหลลงทะเลอย่างรวดเร็วช่วงน้ำลด จึงเป็นน้ำไหลผ่าน แต่ในช่วงที่น้ำกลายเป็นน้ำจืดนั้นตรงกับช่วงน้ำตาย เมื่อน้ำจืดลงมาน้ำไม่ได้ไหลไปไหนทำให้หอยต้องอยู่ในสภาพน้ำจืดจึงตายเกือบยกแปลง เลี้ยงหอยแครงไว้ 80 ล็อคตายเกือบหมดทุกล็อค ซึ่งหอยแครงในระยะนี้มีราคาค่อนข้างแพงคือขายส่งก.ก.ละ 65 บาท หากขายในพื้นที่ก.ก.ละ 70 บาทซึ่งพ่อค้าแม่ค้าจะนำไปขายปลีกก.ก.ละ 100 บาท โดยปกติหอยอยู่ที่ 120 ตัว/ก.ก. ซึ่งหอยที่ตายอยู่ที่ 150 ตัว/ก.ก. เหลืออีกเพียง 10 กว่าวันก็เก็บขายได้แล้ว 

     โดยหอยส่วนใหญ่จะส่งไปยังกทม. เมื่อประสบปัญหาเท่ากับขาดทุนไปเลย ลงทุนไปในรอบนี้ 13 ล้านบาท เลี้ยงมา 6 ปีแล้วปีนี้เพิ่งจะประสบปัญหาขาดทุนเช่นนี้ และที่สำคัญหอยที่ตายในทะเลอีกหลายสิบตัวจะต้องคราดออกเพื่อเคลียร์พื้นที่จะนำเปลือกหอยเหล่านี้ไปไว้ที่ไหนและค่าใช้จ่ายส่วนนี้อีกไม่ต่ำกว่า2 ล้าน และวอนขอภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการเปิดปิดประตูน้ำ หากมีการปล่อยน้ำน่าจะมีการประสานงานกันบ้างอย่างน้อยเกษตรกรที่อยู่ท้ายน้ำไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเลี้ยงปลาในกระชัง หรือฟาร์มหอยแครง ได้อยู่รอดได้บ้าง


ขอบคุณนิตยา แสงมณี // สตูล

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น