โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560

“ท่านผู้นำ” โปรดอย่าฉวยความผิดพลาดโจรใต้ไปสร้างความดีความชอบเกินงาม?! / ไชยยงค์ มณีพิลึก

ท่านผู้นำโปรดอย่าฉวยความผิดพลาดโจรใต้ไปสร้างความดีความชอบเกินงาม?! / ไชยยงค์ มณีพิลึก
   
        


       
       ถ้า อาร์เคเคชุดที่ปฏิบัติการปล้นรถยนต์จาก เต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา สามารถ ยิงทิ้ง เจ้าของเต็นท์รถ และลูกจ้างรวม 4 ชีวิตได้สำเร็จตามแผนการ เชื่อว่าเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เสียงกัมปนาทจาก คาร์บอมบ์ รวม 7 คัน จะต้องดังสนั่นเมืองในพื้นที่ของทั้ง จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา อย่างไม่ต้องสงสัย
       
       แต่เป็นเพราะพระสยามเทวาธิราชมีจริง จึงทำให้ แผนการยิงทิ้งล้มเหลว ทำให้เจ้าของเต็นท์รถ และลูกจ้างวิ่งหนีตายไปได้ 2 คน แล้วได้ไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ จึงทำให้มีเวลาในการ ติดตามไล่ล่า จนอาร์เคเคทั้งหมดต้อง ทิ้งรถและระเบิดรถทิ้ง เพื่อหนีเอาชีวิตรอด แถมยังต้องสูญเสียไป 1 ชีวิต จากการต่อสู่กับเจ้าหน้าที่บริเวณจุดตรวจบ้านเกาะหม้อแกง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
       
       ครับผู้เขียนกำลังเขียนกล่าวถึงเหตุการณ์ก่อการรายครั้งใหญ่ และยังต้องถือเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ของการเกิดเหตุความรุนแรงละลอกใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นคือ การที่ อาร์เคเคหรือ โจรใต้หรือแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็นฯ นำกำลังที่แต่งกายเลียนแบบทหารเข้าปล้นเต็นท์รถยนต์มือสอง ที่บ้านวังโต้ ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา แล้วนำรถยนต์ที่ปล้นไปได้ถึง 6 คัน พร้อมจับตัวเจ้าของเต็นท์รถ และลูกจ้างไปเป็นตัวประกันรวม 4 คน ก่อนที่จะไปยิงทิ้งในพื้นที่  ต.ห้วยปริง อ.เทพา จ.สงขลา
       
       แม้ว่าแผนการก่อวินาศกรรมใหญ่ครั้งนี้จะไม่สำเร็จ แต่ก็ถือว่าเป็น แผนการใหม่และเป็นการ คิดใหญ่ของอาร์เคเคที่ไม่เคยมีมาก่อน
       
       แม้ว่าในครั้งนี้การสูญเสียของเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนจะเกิดขึ้นไม่มากนัก กล่าวคือ ลูกจ้างเจ้าของเต็นท์รถเสียชีวิตไป 1 ราย รถยนต์ถูกประกอบเป็นคาร์บอมบ์ และระเบิดไป 2 คัน บ้านพักตำรวจ สภ.มายอ จ.ปัตตานี ถูกคาร์บอมบ์เสียหายไปหลายหลัง พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บเล็กน้อย 4-5 นาย ส่วนอาร์เคเคเสียชีวิตไป 1 ราย
       
       แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต้องถือว่าเป็นความเสียหายอย่างมหันต์ของฝ่ายความมั่นคง และต้องมีการวิเคราะห์ถึงปฏิบัติการครั้งนี้ของอาร์เคเคอย่างละเอียด เพื่อจะได้หาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีกในภายภาคหน้า
       
       เพราะอย่างที่จั่วหัวไว้ก่อนหน้านี้ คือ ถ้าอาร์เคเคชุดนี้สามารถ ยิงทิ้งเจ้าของเต็นท์รถและลูกจ้าง ทั้ง 4 ตามแผนการที่วางไว้ได้สำเร็จ กว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะรู้ว่ามีเหตุปล้นรถยนต์ และฆ่าคนตายเกิดขึ้นคงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง และรถยนต์ทั้ง 7 คันก็คงจะประกอบเป็นคาร์บอมบ์นำไป ระเบิดเป้าหมายทั้งที่เมืองยะลา และเมืองปัตตานีได้สำเร็จ ซึ่งคงจะดูไม่จืดอีกครั้งอย่างแน่นอน
       
       ดังนั้นความสำเร็จในการป้องกันเหตุครั้งนี้จึงไม่ใช่ เจ้าหน้าที่เก่งแต่เป็นเพราะโจรทำงานพลาดต่างหากที่ทำให้รอดพ้นจากความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไปได้
        
       แต่ก็ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังรับแจ้งเหตุได้ใช้วิธีการทั้งในด้าน เทคนิค ในการค้นหารถยนต์ที่ถูกปล้น รวมทั้งการติดตาม ไล่ล่า สกัดเส้นทางหลบหนีของอาร์เคเค จนทำให้โจรจนมุม รถยนต์

 ขอบคุณ  คอลัมน์  :  จุดคบไฟใต้
       
โดย...ไชยยงค์  มณีพิลึก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น