วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส เปิดอบรมหลักสูตรการเพาะต้นอ่อนทานตะวันเพื่อสร้างรายได้
ลดรายจ่ายในครัวเรือน (มีคลิป)
วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล.ลูโบะบือซา
อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เปิดหลักสูตรการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชน
ลดรายรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โดยมี ดร.นราธิษณ์ หมวกกรอง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชครินทร์
เป็นวิทยากรเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะต้นอ่อนทานตะวันแบบไม่ใช้สารเคมี
เพื่อป้องกันสารตกค้างที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค และเน้นย้ำถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โดยได้จัดอบรมขึ้น ณ องค์การบริหารส่วนตำบลลุโบะบือซา อำเภอยี่งอ
จังหวัดนราธิวาส
โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน 40 คน
นายยุทธนา พรหมณี
ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนนราธิวาสได้กล่าวว่า วชช.นราธิวาส ร่วมกับ อบต.ลูโบ๊ะบือซา
อ.ยี่งอ นำโครงการพัฒนาชุมชนต้นแบบของ จังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นภารกิจที่ได้รับมอบหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้
จึงได้ทำโครงการนี้ชึ้นพร้อมกำหนดเป้าหมายที่ อบต.ลูโบ๊ะบือซา
เพื่อมาพัฒนาคุณภาพชีวิตเกี่ยวกับอาชีพตามความต้องการและวิธีชีวิตของประชาชนในพื้นที่และสอดคล้องกับทรัพยากรที่มีอยู่
เช่น การปลูกต้นทานตะวัน
โดยนำเม็ดทานตะวันมาเพาะเป็นต้นอ่อนทานตะวัน
และยังมีกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มสตรีต้องการหลักสูตรการนวดแผนไทย
โดยเฉพาะทรัพยากรด้านน้ำมันปาล์มและทลายปาล์มเยอะที่ผ่านกระบวนการทางโรงงานการทำน้ำมันปาล์ม
จึงอยากมีการพัฒนานำเศษวัสดุเหล่านี้นำไปเป็นผลิตภัณฑ์หรือใช้ประโยขน์ให้มากที่สุด
จึงนำเสนอหลักสูตรการเพาะเห็ดฟางที่จะ
สำหรับวันนี้ทางวัทยาลัยชุมชนนราธิวาสได้รับความร่วมมือจากทาง
อบต.ลูโบ๊ะบือซา ในการจัดเตรียมสถานที่ นำกลุ่มประชาชนที่สนใจในพื้นที่เป็นเป้าหมายอบรมหลักสูตรการเพาะเมล็ดทานตะวัน
โดยในอนาคตอันใกล้นี้ทาง วชช.นราธิวาส และส่วนราชการอื่นๆ เช่น อบต.พัฒนาชุมชน
รวมถึงบริษัทประชารัฐต่างๆที่จะไปกำหนดดูว่าจุดไหนที่ควนพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนให้มีรายได้ที่ใดบ้าง
โดยมีเป้าหมายอย่างน้อย 10 ชุมชน ใน 1 ปี ตามที่กำหนดไว้
“วิทยาลัยชุมชนนราธิวาสเล็งเห็นความต้องการของตลาดที่มีสูง
ทำให้ราคาจำหน่ายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 200 บาท และประโยชน์จากการบริโภคต้นอ่อนทานตะวันในการช่วยบำรุงความจำ
ทางวิทยาลัยชุมชนนราธิวาสจึงได้จัดเปิดอบรมการเพาะต้นอ่อนทานตะวันขึ้นมา
เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเพาะต้นอ่อนมาจัดจำหน่าย เพื่อลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว”
นางสาวฮันนาน ตาเย๊ะ ผู้เข้าอบรม
“รู้สึกดีใจที่เข้ามาอบรมหลักสูตรการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน เพราะสามารถเพาะรับประทานแล้วยังสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูง
ที่สำคัญการเพาะไม่ได้ยากอย่างที่คิด อุปกรณ์ที่ใช้เพาะก็หาได้จากในบ้าน
และเป็นการเพาะแบบไม่ใช้สารเคมีไม่อันตรายต่อผู้บริโภคอีกด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น