โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

นราธิวาส อบต.กะลุวอ มอบถุงยังชีพพระราชทาน ให้แก่ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลกะลุวอ เพื่อต้องรับในเดือนรอมฎอน ''เพื่อนต่างวัย ห่วงใยผู้แก่ชรา''(มีคลิป)

 นราธิวาส อบต.กะลุวอ  มอบถุงยังชีพพระราชทาน ให้แก่ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลกะลุวอ เพื่อต้องรับในเดือนรอมฎอน ''เพื่อนต่างวัย ห่วงใยผู้แก่ชรา''(มีคลิป)

         วันที่ 25 พ.ค.60 นายรอมือลี หะยีและ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการเพื่อนต่างวัย ห่วงใยผู้แก่ชรา ประจำปี2560 ณ หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

      สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการเป็นผู้สูงอายุจำนวน 250 คน ได้มอบถุงยังชีพพระราชทาน ให้แก่ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลกะลุวอ เพื่อต้องรับในเดือนรอมฎอน จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน สังคมไทย ยกย่องและ ถือว่าผู้สูงอายุเป็นบุคคลสำคัญที่มีคุณค่าของครอบครัวและชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ ได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุหรือคนชราตำบลกะลุวอ รู้จักการดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งจะส่งผลทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ทำให้คนรอบข้างทั้งสังคมคนและครอบครัวมีความสุข เป็นการลดลดช่องว่างระหว่างวัย


         โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้บุตรหลานหันมาสนใจคนชรา อย่างน้อยที่สุดผู้สูงอายุเหล่านี้ก็ล้วนเป็นผู้ที่ผ่านปัญหาและอุปสรรค์มานานัปการ สามารถให้คำแนะนำให้คำปรึกษา แนะนำ และให้กำลังใจแก่ลูกหลานได้อย่างดี การแสดงถึงความสำคัญของผู้สูงอายุว่าไม่ได้ถูกทอดทิ้ง


          แต่ยังได้ให้การสนับสนุนและเอาใจใส่โดยหน่วยงานของรัฐ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็กกำพร้าและผู้ด้อยโอกาสมีความรู้สึกที่ดี และรู้ซึ้งถึง ความเอาใจใส่ของหน่วยงานภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือที่จะทำให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


     นายรอมือลี หะยีและ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ กล่าวว่า “รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคม ได้พบปะกับ ผู้สูงอายุ ส่วนตัวไม่อยากให้ผู้สูงวัยปั่นทอนจิตใจตนเอง คิดว่าตนเองไม่มีคุณค่า หรือเป็นภาระให้กับลูกหลาน เพราะถ้าหากลูกหลานหันมาสนใจและให้กำลังใจท่าน เติมเต็มความรักความอบอุ่นให้กัน ผู้สูงวัยถูกทอดทิ้งก็จะไม่กลายเป็นปัญหาสังคมอีกต่อไป

       ทำได้ง่ายๆ ครับ เริ่มต้นจากคนในบ้าน จากครอบครัวของตัวเอง และเมื่อโอกาสก็ขยายความรักความห่วงใยให้คนอื่น

ขอขอบคุณภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น