โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สกู๊ปพิเศษ..เที่ยวทั่วไทย ...วัดถ้ำคูหาสวรรค์ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี..... ..

สกู๊ปพิเศษ..เที่ยวทั่วไทย ...วัดถ้ำคูหาสวรรค์ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี.....

..
      วันนี้ทางทีมงานข่าวโดย “ทศพร พาเที่ยว” ขอพาท่านมาสัมผัสกับแหล่งวัฒนธรรมของจังหวัดอุบลราชธานี ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวของชาว สปป.ลาว และ ชาวไทย วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี ก่อตั้งโดย "หลวงปู่คำคนิง จุลมณี" ซึ่งใช้เป็นที่ ปฏิบัติธรรมจำพรรษาปัจจุบันท่านได้มรณภาพแล้ว แต่ร่างกายไม่เน่าเปื่อยบรรดาลูกศิษย์ได้เก็บร่างของท่าน ไว้ในโลงแก้วเพื่อบูชา 


       มาวันนี้ทางทีมงานยังได้ถือโอกาส ชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงและแม่น้ำสองสี ตลอดจนทิวทัศน์ของฝั่งประเทศตรงข้ามได้อย่างชัดเจน อันเนื่องมาจากบริเวณที่ตั้งของวัดตั้งอยู่บนที่ราบสูง ริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลไหลรวมกัน กลายเป็นแม่น้ำสองสี อย่างสวยงาม รวมทั้งทิวทัศน์ ตัวอำเภอโขงเจียม ภายในบริเวณวัดถ้ำคูหาสวรรค์มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างเช่น พระอุโบสถหลังงามสีขาวแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจงสวยงาม ดึงดูดให้เหล่านักท่องเที่ยวแวะเข้าเยี่ยมชมที่นี่อย่างมากมาย 

      นอกจากนี้ภายในวัดถ้ำคูหาสวรรค์ ยังมีพระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ ภายในประดิษฐาน พระพุทธรูปปางสมาธิที่สวยงาม สวนตอไม้โดยรอบภายในบริเวณวัดเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเพราะที่วัดแห่งนี้เป็นศูนย์อนุรักษ์กล้วยไม้ไทย ตอไม้ที่ท่านสังเกตเห็นนั้นหากมองอย่างละเอียดแล้วล่ะก็ จะเห็นดอกกล้วยไม้ที่สวยงามน่ารักหลากหลายพันธุ์และสี แต่ทางทีมงานขอบอกก่อนนะครับว่าอย่าเดินชมดอกกล้วยไม้ กันเพลิน เพราะยังมี ถ้ำคูหาสวรรค์ ที่อยู่บริเวณด้านหลังวัดให้ทุกท่านไปสำรวจ ถ้ำคูหาสวรรค์ เป็นถ้ำที่เดินไปได้สะดวก ไม่ลึก ภายในถ้ำเป็น ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย มากมายหลายองค์ ด้านในถ้ำเป็นที่ตั้งของโลงแก้วที่บรรจุสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่คำคนิง จุลมณี พระนักวิปัสสนาที่มีชื่อเสียง 


      สำหรับประวัติของ หลวงปู่ ท่านเกิดวันพุธ  เดือน 4 ปีกุน   ถิ่นกำเนิดบ้านหนองบัว  แขวงคำม่วง  ประเทศลาว  บิดาชื่อคุณพ่อคินทะโนราช  มารดาชื่อคุณแม่นุ่น  มีพี่น้อง 5 คน  หลวงปู่เป็นคนที่ 3 ปัจจุบันได้เสียชีวิตหมดแล้ว เมื่ออายุได้ 18 ปี  มีครอบครัว มีบุตรด้วยกัน 2 คน  เริ่มแรกทำงานเป็นหัวหน้ากรมโยธา  ทำอยู่ได้ 8 ปี  ก็เกิดเบื่อหน่ายหันมายึดอาชีพค้าขายประมาณ 6 ปี  ท่านเกิดเบื่อหน่ายในชีวิตของท่านตั้งแต่เล็กเคยอยู่กับพ่อแม่พี่น้องได้รับทั้งความอบอุ่น  ความรัก  จนกระทั่งเข้าสู่วัยหนุ่มต้องออกมาต่อสู้กับโลกภายนอก  และความรับผิดชอบหน้าที่การงาน  ให้ความสุขเลี้ยงดูบุตรและภรรยา  เห็นชีวิตนี้ไม่มีความแน่นอน  เกิดเบื่อชีวิตคิดจะบวชเพื่อตอบแทนคุณบิดามารดา  ท่านจึงได้ไปปรึกษาภรรยาจะขอบวชเป็นเณรสัก 7 วัน  ภรรยาก็เห็นดีเห็นงามตกลงให้ท่านบวชทดแทนคุณพ่อแม่ที่เคยเลี้ยงดูมา  ในระหว่างที่ท่านบวชเณรอยู่คืนหนึ่งท่านฝันไปว่าเห็นมารดามาบอกว่าอย่าได้สึกเลย  เพราะว่ามารดาที่ตายไปนั้นไปถูกจ่านิรยบาลคุมขังเอาไว้ได้รับความทุกขเวทนามาเป็นเวลานาน  เพิ่งจะได้รับการพ้นทุกข์เพราะอานิสงส์ของการบวชเณรของลูกในคราวนี้เอง  ท่านตกใจตื่นนอนคิดทบทวนความฝันนั้นแล้วก็สังเวชสงสารมารดา  คิดในใจว่าจะบวชต่อไปอีก  แต่ภรรยากลับหาว่าท่านคิดเอาตัวรอดผู้เดียว  ไม่ยอมรับผิดชอบต่อครอบครัว  ซึ่งลูก ๆ ก็ยังเล็กอยู่  ท่านพยายามหาทางออกทุกอย่างโดยพูดกับภรรยาว่าจะหาสามีให้ใหม่  ทั้งสองตกลงกันไม่ได้ผลสุดท้ายท่านหมดหนทาง  เพราะทนการอ้อนวอนขอร้องจากภรรยาที่คอยติดตามไม่ไหวท่านจึงตัดสินใจสึกจากเณรมาทำมาหากิน  ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวอีกวาระหนึ่ง 

       แต่ถึงกระนั้นความตั้งมั่นในการบำเพ็ญเพียรธรรมของท่านหาได้มีลดละความพยายามไม่ หลังจากท่านไปทำงานหาเงินทองเป็นกิจวัตรประจำวันแล้ว  ท่านจะมานอนที่วัดปฏิบัติธรรมสมาธิเป็นประจำ  บ้านเรือนของท่านที่เคยอาศัยอยู่ก็ปล่อยให้ภรรยาและลูก ๆ อยู่กัน  เงินทองที่หาได้มาก็ส่งเสียเลี้ยงดูไม่ได้ให้ขาดแคลนเดือดร้อนอะไร  จนกระทั่งลูก ๆ ได้เติบโตพอที่จะช่วยแม่ทำงานทำการได้  เหตุนี้เองทำให้ภรรยาท่านเกิดควมเบื่อหน่ายหมดอาลัยตายอยากในตัวท่าน  จึงได้เอ่ยปากบอกกับท่าน  เมื่ออยากจะบวชก็ไป  ไม่ต้องมาห่วงทางครอบครัว  ลูก ๆ ก็โตแล้ว  พอจะช่วยทำงานทำการได้  ท่านจึงตัดสินใจไปบวชด้วยความหมดห่วงหมดใย

       สำหรับการเดินทางจากอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เข้าสู่ตัวอำเภอวารินชำราบ ออกจากอำเภอวารินชำราบด้วยเส้นทางหลวง หมายเลข 217 มุ่งไปอำเภอพิบูลมังสาหาร เมื่อผ่านตัวอำเภอจะพบทางแยกซ้ายมุ่งข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2222 ก่อนถึงตัว อำเภอโขงเจียม ก็จะพบกับวัดถ้ำคูหาสวรรค์ที่ตั้งอยู่บริเวณริมถนนดังกล่าว ทางทีมงานได้เดินทางไปมาแล้วจึงอยากเชิญชวนทุกท่านที่ยังไม่เคยไป สามารถเดินทางไปสัมผัสกับความสวยเด่นของวัดได้แล้วท่านจะติดใจ

ขอขอบคุณ  ทศพร  ก้อนแก้ว  หน.ศูนย์ข่าวภาคอีสาน  รายงาน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น