ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่สตูลติดตามความคืบหน้า 3 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่สตูลติดตามความคืบหน้า 3 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล วันที่3ม.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุรศักดิ์ เรียงเครือ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 8 พร้อมนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสตูลเพื่อตรวจติดตามงานโครงการตามแผนการตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 รอบที่ 1 ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลถึงความก้าวหน้าของการดำเนินงานแต่ละหน่วยงานในจังหวัดสตูล โดยเน้น 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ นโยบายการบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็ง และการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัด คือ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และมาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย โดยทางคณะฯ ได้ลงพื้นที่อ.ละงู ร่วมในพิธีเปิดร้านค้าประชารัฐกองทุนบ้านวังช่อนชัย หมู่ที่ 17

           จากนั้น เดินทางไปยังแปลงเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรของนายซุลัยมาน เจ๊ะหลี ซึ่งเป็นพื้นที่นาแปลงใหญ่ในหมู่ที่ 6 ต.กำแพง พร้อมรับฟังปัญหาจากเกษตรกรชาวนา พบว่าขณะนี้ในพื้นที่เริ่มประสบปัญหาเรื่องน้ำเนื่องจากฝนขาดช่วงและเริ่มเข้าสู่หน้าแล้ง อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตของเกษตรกรได้ และยังได้ลงพื้นที่ติดตามการจัดการขยะของเทศบาลต.กำแพง พร้อมเยี่ยมชมโรงงานคัดแยกขยะแบบครบวงจร ซึ่งทางโรงงานแห่งนี้มีการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบโดยใช้หลัก 3 RS คือ ขยะรีไซเคิลขยะที่ย่อยสลายนำไปทำเป็นปุ๋ย และขยะเปียกที่ใช้งานไม่ได้นำลงบ่อขยะเพื่อฝังกลบลงดินอย่างมิดชิด นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 8 กล่าวว่า จากลงพื้นที่จ.สตูลในครั้งนี้ พบว่าสถานการณ์ขยะในจังหวัดสตูลไม่น่าเป็นห่วงแล้ว โดยเฉพาะขยะบนเกาะหลีเป๊ะที่เคยเป็นปัญหาก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีโรงงานคัดแยกขยะในพื้นที่อ.ละงูซึ่งมีประสิทธิภาพในการรองรับขยะทั้งทางบกและทางทะเล แต่จากนี้คงต้องต่อยอดด้วยการสนับสนุนงบประมาณในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายในโรงงาน และอีกเรื่องที่สำคัญคือการบำบัดน้ำเสียบนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งจะประสานกับทางจังหวัดให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นนี้

 นิตยา แสงมณี-สตูล/รายงาน