จำนวนผู้เข้าชม

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568

สื่อปลายด้ามขวาน@ นำโดย ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาส พาตะลุยกิน "หอยทราย" แอเตาะ ของดีชายแดนใต้ มรดกอาหารพื้นบ้านนราธิวาส(มีคลิป)

 

สื่อปลายด้ามขวาน@ นำโดย ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาส พาตะลุยกิน "หอยทราย" แอเตาะ ของดีชายแดนใต้ มรดกอาหารพื้นบ้านนราธิวาส(มีคลิป)


ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 

หอยทราย ในภาษยาวีพื้นถิ่นเรียกว่า แอเตาะ อาหารพื้นบ้านที่สืบทอดกันมายาวนานในวิถีชุมชนมลายู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้กลายเป็นเมนูยอดนิยมที่ไม่เพียงแต่สร้างเอกลักษณ์ทางอาหาร แต่ยังสร้างรายได้มหาศาลให้กับคนในพื้นที่



หอยทรายหรือ แอเตาะ พบมากในแม่น้ำสายสำคัญของชายแดนใต้ โดยเฉพาะแม่น้ำโก-ลก ชาวบ้านมักออกหาหอยเพื่อนำมาเป็นของกินเล่นอันดับต้นๆหรือจำหน่ายเป็นอาชีพเสริม ด้วยวิธีการทำแบบดั้งเดิมคือ นำหอยมาล้างสะอาดหมักด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน อย่างตะไคร้ ขิง กระเทียมและเกลือ ก่อนนำมาย่างบนไม้ไผ่ให้หอม เนื้อหอยจะมีสีขาวรสชาติหวาน มัน เค็มกำลังดี อร่อยสุดฟินเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยหากข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย หอยทรายหรือแอเตาะ ก็เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมวางจำหน่ายตามตลาดนัดทั่วไป








น.ส. ภาวิณา ดาโอ๊ะ อายุ 38 ปี ชาว อ.ตากใบ เจ้าของร้าน Etok SALAI KAKNA PC ได้นำสูตรดั้งเดิมที่แม่เคยทำจำหน่ายในประเทศมาเลเซียมาพัฒนาต่อยอด เป็นเจ้าแรกที่ทำหอยทรายหรือแอเตาะย่างถึง 10 รสชาติ ได้แก่ รสดั้งเดิม ต้มยำ ปาปริก้า บาบีคิว สไปซี่ ชีส หวาน เผ็ดหวาน บูดู และซีฟู้ด เพื่อเอาใจผู้บริโภคที่นิยมรสจัดจ้านมากขึ้น ปัจจุบันจำหน่ายหอยทรายหรือ แอเตาะ ได้วันละประมาณ 60 กระสอบ หรือกว่า 2,400 กิโลกรัม จนสร้างรายได้กว่า 100,000 บาทต่อวัน ปัจจุบัน น.ส.ภาวิณาและครอบครัวยังคงสืบสานกิจการ โดยปรับสูตรให้ถูกปากกับคนไทย กระแสตอบรับจากผู้บริโภคดีเกินคาด โดยจำหน่ายในราคาเพียงห่อละ 20 บาท สร้างรายได้เฉลี่ยวันละประมาณ 15,000 บาท ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง


ซึ่งขั้นตอนการทำหอยทรายหรือแอเตาะรมควัน ที่ได้มีการรับซื้อจากชาวบ้านที่ลงไปหาในแม่น้ำโก-ลก ไม่ยากอย่างที่คิด 4 ขั้นตอนหลักๆด้วยกัน คือ 1.นำหอยทรายหรือแอเตาะมาล้างในน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง เพื่อขจัดเศษดินโคลนและสิ่งสกปรกออกจนหมด 2.หมักด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน พร้อมเตรียมเครื่องปรุง ได้แก่ ตะไคร้ ขิง กระเทียม และเกลือ โขลกให้ละเอียด จากนั้นนำหอยทรายหรือแอเตาะที่ล้างสะอาดแล้วมาคลุกเคล้ากับส่วนผสม ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อให้กลิ่นสมุนไพรซึมซับเข้าไปในเนื้อหอย 3.นำหอยทรายหรือออเตาะที่หมักแล้วมาวางบนเตาย่าง 



โดยใช้ไม้ไผ่เป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเฉพาะตัว ใช้เวลาย่างประมาณ 2 ชั่วโมง โดยต้องหมั่นคนให้สุกทั่วกัน เคล็ดลับคืออย่าย่างนานเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อหอยแข็งและหดเล็ก ควรย่างพอให้เนื้อฉ่ำ ๆ เพื่อคงรสชาติหวาน มัน เค็มอย่างเป็นธรรมชาติ และ 4.ปรุงรสหลากหลายสไตล์ เมื่อหอยย่างสุกได้ที่แล้ว จึงนำมาปรุงแต่งรสชาติให้หลากหลายตามสูตรที่เตรียมไว้ อาทิ รสดั้งเดิม ต้มยำ ปาปริก้า บาบีคิว สไปซี่ ชีส หวาน เผ็ดหวาน บูดู และซีฟู้ด เพื่อเพิ่มมิติของรสชาติให้ถูกปากผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยได้อย่างลงตัว


หอยทรายหรือแอเตาะ ของดีชายแดนใต้ที่ไม่ควรพลาด ไม่ใช่แค่อาหารพื้นบ้าน แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนวิถีชีวิตผู้คนลุ่มน้ำชายแดนใต้ และยังเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนระดับรากหญ้าอย่างยั่งยืน หากมีโอกาสเยียนชายแดนใต้อย่างนราธิวาส ไม่ควรพลาดลิ้มลองเดี๋ยวจะพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามสั่งล่วงหน้าได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-4916757 ที่ปัจจุบันวางจำหน่าย 3 จุด คือ 1. ที่ อ.เมืองนราธิวาส (หาดนราทัศน์), 2.(ริมเขื่อน) อ.ตากใบ (หน้าบริษัทประยูรฯ), และ 3. อ.บาเจาะ (หน้าเซเว่น)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โฆษณา


วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้