โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

ข่าวเด่น

สหกรณ์อิสลามปัตตานี ร่วมกับ บ.เคแอลเอ็ม มหาชัย เพาเวอร์ เปิดสถานีบริการ mini SUPER ลงพื้นที่ให้บริการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

  สหกรณ์อิสลามปัตตานี ร่วมกับ บ.เคแอลเอ็ม มหาชัย เพาเวอร์ เปิดสถานีบริการ mini SUPER ลงพื้นที่ให้บริการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้   เปิดฤกษ์ดี เ...

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2568

จับตาสนามเล็กพัทลุง แต่ศึกสามเส้าใหญ่หลวงนัก

 จับตาสนามเล็กพัทลุง แต่ศึกสามเส้าใหญ่หลวงนัก

……


สนามเลือกตั้งไม่ใหญ่มากของพัทลุง แค่ 3 เขตเลือกตั้ง แต่ถือเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ของหลายพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์เจ้าถิ่นเดิม ภูมิใจไทย ผู้เข้ามาแทรกซึมยึดพื้นที่ หรือแม้แต่รวมไทยสร้างชาติ ที่เข้ามาในการเลือกตั้งครั้งแรกก็คว้าไป 1 ที่นั่ง

โดยภาพรวมถ้าดูจากโครงสร้างสนามการเมืองพัทลุงตอนนี้ สามกลุ่มใหญ่ที่ว่ามีฐานเสียงและจุดแข็งต่างกัน แต่ก็มีพื้นที่ทับซ้อนกันพอสมควร ทำให้ศึกครั้งหน้ามีแนวโน้ม “ดุเดือดกว่าครั้งก่อน” 

ประชาธิปัตย์ – สุพัชรี ธรรมเพชร เป็นสายตระกูล “ธรรมเพชร” ที่อยู่กับการเมืองพัทลุงมานาน ฐานเสียงชัดใน อ.กงหรา บางส่วนของ อ.ตะโหมด–เขาชัยสน มี “เสถียร ธรรมเพชร” เป็นหัวเรือใหญ่ ที่คุมฐานเสียงการเมืองท้องถิ่น

แม้ประชาธิปัตย์เสียที่นั่งไปหลายจังหวัดภาคใต้ แต่พัทลุงยังพอรักษาโครงสร้างท้องถิ่นและฐานญาติพี่น้องนักการเมืองท้องถิ่นไว้ได้ เลือกตั้งปี 66 ยังยึดไว้ได้ 2 เก้าอี้ “สุพัชรี ธรรมเพชร-หวาย-ร่มธรรม ขำนุรักษ์”

จุดท้าทายสำหรับประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นงานยากงานหินในสถานการณ์ขาลง คือการรักษาฐานเสียงเดิมในสภาพที่คนรุ่นใหม่อาจเริ่มมองหาตัวเลือกอื่นแทน


ภูมิใจไทย – ดร.นาที กับ พิพัฒน์ รัชกิจประการหัวเรือใหญ่ของภูมิใจไทยดร.นาทีถือว่าเป็น “แม่บ้านการเมือง” ของพัทลุงที่มีบารมีและเครือข่ายกว้าง ทั้งจากการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น แต่การนำทีมเดินพลาดในคดีเสียบบัตรแทนกัน และแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ติดคุกไป 9 เดือนเสียเครดิตไปพอสมควร ทีมอีก สส.ก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปหมด

 

พิพัฒน์ รัชกิจประการ (อดีตรมว.ท่องเที่ยวฯ และรัฐมนตรีแรงงาน) มีสายสัมพันธ์ธุรกิจ–การเมืองภาคใต้ โดยเฉพาะเชื่อมโยงกับพัทลุงทางงานท่องเที่ยวและโครงการพัฒนา

เมื่อครั้งภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลจะเน้นยุทธศาสตร์ “งบลงพื้นที่–โครงการรูปธรรม” ตามสโลแกน “พูดแล้วทำ” และดูดอดีตแกนนำท้องถิ่นที่เคยอยู่พรรคอื่นมาเสริมทัพให้แข็งแกร่งต่อเนื่อง พร้อมกระสุนดินดำที่สะสมมาจากธุรกิจน้ำมัน


การเดินสายจัดทัพ เสริมทีมจึงมีให้เห็นต่อเนื่องอย่างล่าสุดเพิ่งไปอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้ “นิพนธ์ บุญญามณี” ก็เป็นฉากทัศน์ทางการเมือง “เนวิน ชิดชอบ”ก็บุกบ้านใหญ่เมืองตรัง “โกหน่อ-สมชาย โล่สถาพรพิพิธ ก็เป็นบริบทเข้ามาเสริม ”พิพัฒน์-นาที“


รวมไทยสร้างชาติ – สายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร แม้“ธรรมเพชร” เหมือนกับสุพัชรี แต่ถือเป็นสายการเมืองแยกขั้วกันแล้ว

การใช้แบรนด์รวมไทยสร้างชาติของสายวิสุทธิ์ทำให้ได้แรงหนุนจากกระแสนายกฯประยุทธ์ในกลุ่มอนุรักษ์นิยมและข้าราชการเกษียณ

จุดแข็งของสายนี้คือความใกล้ชิดกับเครือข่ายราชการและผู้ใหญ่บ้าน–กำนันบางส่วนที่ยังนิยมรัฐบาลเดิม


แนวโน้มการสู้กันพื้นที่พัทลุงมีเขตเลือกตั้งเพียง 3 เขต แต่ทั้งสามกลุ่มนี้มีฐานเสียง “ซ้อน” กันในหลายอำเภอ และให้จับตาการเข้ามาสร้างฐานของพรรคกล้าธรรม ส่ง ”ปวิช พรหมทอง“ เด็กป่าพยอม ลุยพื้นที่ฝุ่นตลบแล้ว

ความดุเดือดจะเกิดในเขตที่ ฐานเสียงประชาธิปัตย์ดั้งเดิมกับภูมิใจไทยชนกันตรง ๆ โดยเฉพาะเขต 1 อ.เมืองเขาชัยสน เป็นเขตที่สายวิสุทธิ์บุกแย่งฐานตระกูลเดียวกันกับสุพัชรี จึงมีโอกาสสูงที่จะเห็น คะแนนแตก 3 ฝ่ายแบบสูสี ในบางเขต ซึ่งทำให้ชนะได้แม้มีคะแนนไม่ถึง 40%

หากภูมิใจไทยดึงอดีตหัวคะแนนประชาธิปัตย์เพิ่มได้ อาจปิดเกมในบางเขตได้ตั้งแต่โค้งแรกๆ แต่ถ้า ประชาธิปัตย์รักษาโครงสร้างองค์กรในพื้นที่ได้ ก็ยังมีโอกาสกลับมาชนะได้ แต่สถานการณ์นี้ไม่ง่ายเลย เพียงแต่รวมไทยสร้างชาติขาดลุงตู่ก็อาจจะแผ่วไปบ้าง


ศึกนี้จะไม่ใช่แค่ “พรรคชนพรรค” แต่เป็น ตระกูลชนตระกูล–หัวคะแนนชนหัวคะแนน จึงน่าจะหนักตั้งแต่ก่อนประกาศเลือกตั้งอย่างน้อย 6 เดือน

จากการเลือกตั้งปี 2566 ในจังหวัดพัทลุง 

เขตเลือกตั้ง พัทลุง 3 เขตและแนวโน้มการแข่งขัน

เขตเลือกตั้งที่ 1: เมืองพัทลุง – เขาชัยสน น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร (ประชาธิปัตย์) ชนะ น.ส.ภุชงค์ (ภูมิใจไทย) ทำให้ภูมิใจไทยต้องเปลี่ยนตัวสู้ กำลังทำงานในพื้นที่อยู่ ซึ่งเป็นคนเขาชัยสน

แนวโน้มเลือกตั้งครั้งหน้ายังเป็นการปะทะหลักระหว่างประชาธิปัตย์กับ ภูมิใจไทย โดยประชาธิปัตย์มีความได้เปรียบจากฐานเสียงท้องถิ่นและตระกูลธรรมเพชร

เขตเลือกตั้งที่ 2: ศรีนครินทร์ – ควนขนุน – ศรีบรรพต – ป่าพะยอม – กงหรา (ต.สมหวัง, ชะรัด) นิติศักดิ์ ธรรมเพชร (รวมไทยสร้างชาติ) ชนะวรธ เทอดวีระพงศ์ (ภูมิใจไทย)     

แนวโน้มครั้งหน้า: การแข่งขันหลักอยู่ระหว่าง รวมไทยสร้างชาติ และภูมิใจไทย ซึ่งรวมไทยสร้างชาติเพิ่งก้าวขึ้นมาชนะในเขตนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ให้จับตา ”ปวิช พรหมทอง“ จากพรรคกล้าธรรมว่า รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะให้ราคาแค่ไหน เพราะเขาสายตรงธรรมนัส แต่เป็นคนที่ ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ไม่เอา


เขตเลือกตั้งที่ 3: กงหรา (ยกเว้น ต.สมหวัง, ชะรัด) – ตะโหมด – บางแก้ว – ป่าบอน – ปากพะยูน สส.คนรุ่นใหม่ มีความรู้ความสามารถสูง ประสบการณ์ไกล

”หวาย-ร่มธรรม ขำนุรักษ์ (ประชาธิปัตย์) ชนะ ประเทือง มนตรี (ภูมิใจไทย) โดยคะแนนชัดเจน 46,559 ต่อ 30,146   มนตรีเป็นสายตรง ดร.นาทีด้วย

เลข 3 แนวโน้มสนามหน้าเป็นศึกระหว่างประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทย อีกครั้ง โดยประชาธิปัตย์ดูแข็งแกร่งในพื้นที่นี้จากฐานท้องถิ่นและตระกูลขำนุรักษ์ ที่ยังมี “นริศ ขำนุรักษ์” ผู้เป็นพ่อ ยังกุมหัวคะแนนอยู่ไม่น้อย

ประชาธิปัตย์ (สุพัชรี–ร่มธรรม) มีแนวโน้มคุมพื้นที่ในเขตที่มีฐานเสียงแน่น (เขต 1 และ 3)

รวมไทยสร้างชาติ (นิติศักดิ์) เป็นผู้เล่นใหม่ที่กำลังท้าทายภูมิใจไทยในเขต 2 และอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในสนามหน้า

ภูมิใจไทย ต้องหาวิธีฟื้นฐานเสียงในทุกเขต ถ้าไม่รีบปรับยุทธศาสตร์ อาจพลาดที่นั่งอีก การเมืองวันนี้ยังไม่ใช่วันเลือกตั้งอะไรก็เปลี่ยนได้ ที่เดินอยู่ในพื้นที่อาจจะไม่ใช่ตัวจริงก็ได้ กับภาพสาโรจน์ สามารถ พาพิพัฒน์เข้าอวยพรวันเกิดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีบริบททางการเมืองอยู่นะ


สู้กันแน่นอนครับ สนามนี้ตระกูลชนตระกูล-พรรคชนกันเดือดแน่! พัทลุง อดีตตำรวจก็เดินสายทุกงาน รอการประเมินผลอยู่

 #นายหัวไทร

 #การเมืองพัทลุง

 #พรรคชนพรรค

 #ตระกูลชนตระกูล

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น