จำนวนผู้เข้าชม

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ใครหน่อ ชวน ”นายกฯชาย“ เข้าพรรคประชาธิปัตย์

 ใครหน่อ ชวน ”นายกฯชาย“ เข้าพรรคประชาธิปัตย์

……


ต้องมีผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์สักคนเป็นแน่แท้เอ่ยปากชวน “นายกฯชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง” เข้าร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์

ที่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเขียนเพราะไปพบคลิปนายกฯชาย เผยแพร่ตอบโต้สนธิ ลิ้มทองกุล นักข่าวอาวุโส นักวิพากษ์วิจารณ์ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ อธิบายรายละเอียดในทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับย้ำว่า ถ้าไม่แก้ไขให้ภายในวันที่ 15 สิงหาคม จะใช้ช่องทางกฎหมาย (ฟ้อง) สนธิ วันนี้วันที่ 17 สิงหาคม ยังไม่เห็นคลิปแก้จากสนธิ ยังไม่รู้ว่านายกฯชายตั้งทนายฟ้องสนธิแล้วหรือยัง จึงแค่อยากย้อนให้เห็นวิถีของนายกฯชาย


“เดชอิศม์ ขาวทอง” หรือ “นายกชาย”เกิดที่รัตภูมิ จังหวัดสงขลา สมรสกับนางสาวสุภาพร กำเนิดผล ในปี 2552 (ครั้งที่ 2) มีบุตร–ธิดารวมทั้งหมด 6 คน หนึ่งในนั้นคือ ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทองสส.สงขลา เขต 9    พรรคประชาธิปัตย์

นายกฯชาย จบปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)       

เดินเข้าสู่เส้นทางการเมืองระดับท้องถิ่นด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้ง

เป็นสมาชิกสภาจังหวัดสงขลา (ส.จ.) เขตอำเภอรัตภูมิ ได้รับเลือกเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (นายก อบจ.) ในยุคที่ยังเป็นการเลือกทางอ้อม 2 สมัย โดย สจ.เป็นคนโหวตเลือก

เข้าสู่การเมืองระดับชาติด้วยการลงสมัคร สส.สงขลา เขต 5 ในนาม พรรคไทยรักไทย ปี พ.ศ. 2548 แต่ไม่สำเร็จ ช่วงนั้นแข่งกับประพร เอกอุรุ จากพรรคประชาธิปัตย์

หลังจากนั้นถาวรก็ชักนำให้มาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ในปี พ.ศ. 2550 พร้อมกับการวางแผนให้ไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน ทั้ง ชวน หลีกภัย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ

นายกฯชาย ได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา สมัยแรกในการเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ. 2562 หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปลดล็อคให้มีการเลือกตั้งและอีกครั้งในปี พ.ศ. 2566       

ปี 2566 ถาวร เสนเนียม มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ต้องพ้นจากรัฐมนตรี และ สส. ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เขต 6 สงขลา นายกฯชายส่งภรรยาสุภาพร ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐส่ง “โบ๊ต-อนุกูล พฤกษานุศักดิ์“ ลูกชายหัวคะแนนของถาวร แน่นอนว่า ถาวรเป็นใจให้กับโบ๊ตมากกว่า จึงมีคำสบถจากนายกฯชายออกมาให้ได้ยินกัน อันเป็นประโยคที่ทำให้ ”ถาวร-นายกฯชาย“ ต้องแยกทางกันเดิน แต่นายกฯชายก็ยังสามารถหอบหิ้วภรรยาเข้าสภาได้ แต่หืดขึ้นคอ เลือกตั้งครั้งหน้า สุภาพรถ้ายังลงสมัครเขต 6 ก็ต้องชนกับโบ๊ตเหมือนเดิม แต่โบ๊ตย้ายไปอยู่พรรคกล้าธรรม ซึ่งกล้าทำจริงๆ โดยยังมี สส.ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว จากเขต 4 ข้ามมาช่วยทำอีกคน ก็น่าจะเป็นเขตเดือดของสงขลา

ภายในพรรคประชาธิปัตย์ในปี พ.ศ. 2564 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แทนนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่ขอลาออก ต่อมาวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และดำรงตำแหน่งนี้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน     

บทบาทในรัฐบาล นายกฯชายและคณะกรรมการบริหารได้ตัดสินใจนำพาพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล สนับสนุนแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี และนายกฯชายได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) ในรัฐบาลชุด ครม.“แพทองธาร”     

เมื่อมีการปรับ ครม.วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ประชาธิปัตย์ยังยืนยันร่วมรัฐบาลต่อไป หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัว และมีประกาศพระบรมราชโองการ แต่งตั้งให้นายกฯชายเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มหาดไทย) ในรัฐบาลชุด ครม.“แพทองธาร 1/2 อันเป็นการยกเกรดตัวเองขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

เดชอิศม์ ขาวทอง (“นายกฯชาย”) เดิมเคยลงเลือกตั้ง ส.ส. สงขลา ในนาม พรรคไทยรักไทย ปี 2548 แต่สอบตก

ต่อมาในปี 2550 ได้ย้ายเข้าสังกัดพรรคประชาธิปัตย์

ายกฯชายเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเป็นคนสงขลาคนแรกที่ไต่เต้าขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะวีระ มุสิกะพงศ์ เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรกที่เป็นคนสงขลา


ถ้านายกฯชายบอกว่าเขาจะเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรกจะทำให้ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ฟื้นฟูขึ้นมา เราจะรับฟังได้ไหม

 #นายหัวไทร

 #นายกฯชาย

 #ถาวรเสนเนียม

 #ประชาธิปัตย์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โฆษณา


วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้