ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาอนาคต สส./สว.และ ครม.โยกงบไปแจกเงินหมื่น ผิด ม.144 หรือไม่

ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาอนาคต สส./สว.และ ครม.โยกงบไปแจกเงินหมื่น ผิด ม.144 หรือไม่

พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยความผิดของ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาฯคนที่ 1 ทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการอนุมัติโครงการ ให้พ้นจาก สส.และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ซึ่งต้องพ้นจากตำแหน่งรองประธานสภาฯโดยปริยาย ก็ให้นึกถึงชตากรรมของ สส./สว./และ ครม.ที่ร่วมกันอนุมัติให้โยกงบกลาง (งบใช้หนี้/ดอกเบี้ย)ไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อมีคนไปร้องเรื่องคาอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

“มาตรา 144 รัฐธรรมนูญ 2560 กล่าวไว้ว่า:

“ในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี… ห้ามไม่ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือคณะรัฐมนตรี กำหนด แก้ไข เพิ่มเติมข้อความใดในร่างกฎหมาย…เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับประโยชน์…”

กรณี ส.ว./ส.ส. หรือ ครม. ร่วมกันกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 เป็นเรื่องที่ร้ายแรง เนื่องจาก มาตรานี้เกี่ยวข้องกับการใช้ อำนาจงบประมาณแผ่นดิน และมีบทลงโทษชัดเจนในรัฐธรรมนูญเอง

มีผู้ร้องหรือยื่นคำร้องเกี่ยวกับข้อกล่าวหาฝ่าฝืน รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 จากหลายฝ่าย

1. กลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” (ทนายนกเขา)เป็น กลุ่มภาคประชาชนที่รวบรวมหลักฐานมหาศาล ก่อนยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบกรณีโยกงบประมาณกว่า 35,000 ล้านบาทไปแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยชี้ว่าละเมิด ม.144     

2. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ และคณะร่วมยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบและส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ กรณีปรับงบตัดหนี้แบงก์รัฐเพื่อใช้ในโครงการแจกเงินดังกล่าว   

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 121 คน (โดย ภัณฑิล น่วมเจิม เป็นตัวแทน) ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อ ศาลรัฐธรรมนูญ ตาม ม.144 วรรคสาม ว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืน มาตรานี้โดยตรง โดยเฉพาะในคดี “รองประธานสภาฯ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” ซึ่งศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าผิดตาม ม.144 วรรคสอง และให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ S.ส. พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

โดยสรุป เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับคดีไว้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยพิจารณาผู้ถูกกล่าวหาหลัก ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (นายกฯ ขณะนั้น), นายเศรษฐา ทวีสิน, คณะรัฐมนตรี, ส.ส., ส.ว., และกรรมาธิการงบประมาณปี 2568 ที่มีมติส่วนร่วมกันมีมติปรับลดงบใช้หนี้แล้วโยกไปแจกเงินหมื่น   

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ และคณะ ได้ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมอีก 11 รายการต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เพื่อเสริมคำร้องกล่าวหาดังกล่าว   

ปัจจุบัน คดีอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของ ป.ป.ช. โดย ป.ป.ช. มีกรอบเวลาในการสอบสวนและหากพบมูลความผิดก็ต้อง ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาภายในระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 60 วันในบางกรณี) คดีนี้เข้าสู่ขบวนการเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน กรอบเวลา 60 วันก็จะเดือนสิงหาคมนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วพบมีความผิดเช่นเดียวกับพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ก็จะมีทั้ง ครม./สส.และ สว. ส่วนใหญ่ต้องรับโทษ และโทษคือ พ้นจากตำแหน่ง สส./สว.และ ครม.

สิงหาคมฝ่ายการเมืองหนาวสั่นกันทั้งเดือน ลุ้นกันเหงื่ิอแตก จะอยู่หรือจะไป และไปแบบไหน

 #นายหัวไทร

 #ลุ้นอนาคตฝ่ายการเมือง