รมว.ยุติธรรม แถลงจับยาไอซ์ล็อตใหญ่ 615 กก. ในพื้นที่ชายแดนใต้ ลั่นเร่งขยายผลสาวถึงผู้บงการ(มีคลิป)
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตาม เร่งรัด การดำเนินงานป้องกัน ปราบปรามและแก้ไข ปัญหายาเสพติด (ครส.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดยะลา ณ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสามารถยึดยาไอซ์ได้มากถึง 615 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย และของกลางอื่น ๆ อีกหลายรายการ
การแถลงข่าวครั้งนี้มีบุคคลสำคัญจากหลายภาคส่วนเข้าร่วม อาทิ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, พล.ต.กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และพล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เปิดเผยว่า การจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเน้นย้ำการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง คณะกรรมการ ครส. ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) จัดทำแผนรวมพลังจิตอาสา เอาชนะยาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงานด้านยาเสพติดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา
โดยเริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน และจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2568 ในด้านการปราบปรามและการบังคับใช้กฎหมาย พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 9 เป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทหารในพื้นที่, กก.3 บก.ปส.4 และสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 9 เข้าปฏิบัติการใน 150 หมู่บ้าน/ชุมชน ผลการปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 218 คดี ผู้ต้องหา 241 คน ยึดยาบ้าได้ 681,753 เม็ด และยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 17,222,996 บาท
สำหรับยาไอซ์ที่จับกุมได้ในครั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่ามีเป้าหมายเพื่อส่งผ่านไปยังประเทศที่สาม รวมถึงนำมาใช้ในพื้นที่ชายแดนของประเทศไทยที่เป็นเมืองเศรษฐกิจ ซึ่งยาเสพติดเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง และจะเร่งขยายผลไปยังผู้บงการรายใหญ่ รวมถึงผู้ที่มีการฟอกเงินจากขบวนการค้ายาเสพติด
พร้อมเตรียมหารือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาความร่วมมือในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ จะมีการปรับแผนบูรณาการให้เป็นแผนยุทธการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นในแต่ละพื้นที่ โดยอาศัยพลังจิตอาสาในการเอาชนะยาเสพติด และเน้นแนวทางการบำบัดฟื้นฟูเพื่อให้โอกาสผู้หลงผิดได้กลับตัวกลับใจสู่สังคม ด้วยการสร้างงานและสร้างอาชีพ
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยรายละเอียดการจับกุมว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.จชต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และผู้บริหารระดับสูงหลายท่าน ได้จับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ 1 คดี ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายอีรฮัม นายอับดุลฮาดี และนายไฟท์ซาร์ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พร้อมของกลางยาไอซ์ 615 กิโลกรัม, รถยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกตั้งข้อหา "ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์หรือไอซ์) อันมีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และ ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน โดยผิดกฎหมาย" เหตุเกิดบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ชุมชนลูโบะฆง หมู่ 3 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการสืบสวนติดตามเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีพฤติการณ์ร่วมกันติดต่อกับนักค้ายาเสพติดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อลักลอบลำเลียงยาบ้าและไอซ์มาจำหน่ายให้กับเครือข่ายในพื้นที่และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การสืบสวนขยายผลต่อเนื่องมาจากการตรวจยึดยาบ้า 396,000 เม็ด
เมื่อเดือนกันยายน 2567 ในชุมชนลูโบะฆง ซึ่งนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าบุคคลในเครือข่ายที่ยังไม่ถูกจับกุมยังคงมีความเคลื่อนไหวในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาพักเก็บในหมู่บ้านเกิดเหตุ จึงได้ประสานงานกับแหล่งข่าวในชุมชนอย่างต่อเนื่อง จนได้รับแจ้งว่าเครือข่ายดังกล่าวเตรียมลำเลียงยาไอซ์จำนวนมากเข้ามาพักเก็บเพื่อรอส่งต่อ จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลติดตามจับกุมบุคคลในเครือข่ายที่ยังหลบหนีและยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น