โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

“สรรเพชญ” ตั้งข้อสังเกตงบฯ ปี 2569 ห่วงขาดดุลสูง งบท้องถิ่นยังต่ำกว่ากฎหมายกำหนด หวังรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน

 “สรรเพชญ” ตั้งข้อสังเกตงบฯ ปี 2569 ห่วงขาดดุลสูง งบท้องถิ่นยังต่ำกว่ากฎหมายกำหนด หวังรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน


30 พฤษภาคม 2568 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งข้อสังเกตต่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า แม้จะเป็นงบประมาณที่รัฐบาลจัดทำขึ้นในบริบทของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีประเด็นหลายด้านที่ควรจับตา โดยเฉพาะในเรื่องความสมดุลทางการคลัง และทิศทางการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

หนึ่งในประเด็นหลักที่ได้รับความสนใจ คือ การตั้งงบประมาณแบบขาดดุลในวงเงินสูงถึง 860,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่า รัฐบาลยังคงต้องพึ่งพาการกู้เงินอย่างต่อเนื่องเพื่อชดเชยรายจ่าย ซึ่งตนเข้าใจได้ว่าเป็นความจำเป็นในระยะสั้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาว ควรมีแผนลดระดับการขาดดุลและควบคุมหนี้สาธารณะให้เกิดเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ รวมถึงในส่วนของงบกลาง ซึ่งถูกจัดสรรไว้ถึง 632,968 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 16.7 ของงบประมาณทั้งหมด ยังเป็นงบที่ไม่มีการแจกแจงรายละเอียดอย่างเพียงพอ และมีลักษณะการรวมศูนย์อำนาจการตัดสินใจไว้ที่ส่วนกลางค่อนข้างมาก ทำให้ยากต่อการตรวจสอบประสิทธิภาพในการใช้งบ แต่งบประมาณในส่วนนี้ก็ยังคงมีความจำเป็นในช่วงที่รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนที่ไม่อาจคาดคะเนได้ ซึ่งหากรัฐบาลสามารถแจกแจงที่มาที่ไป การใช้จ่ายงบประมาณให้ประชาชนร่วมตรวจสอบได้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอย่างมาก และเป็นการย้ำให้ประชาชนได้เห็นถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้ในกระบวนการงบประมาณของรัฐบาล

นอกจากนี้ นายสรรเพชญยังได้เสนอข้อสังเกตต่อบทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งควรมีบทบาทที่ชัดเจนและเชิงรุกมากยิ่งขึ้นในการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง พร้อมเสนอให้ฟื้นฟูมาตรการลดราคาสินค้าจำเป็นในรูปแบบที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง เช่น โครงการธงฟ้า ควบคู่กับการรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้า ไม่ใช่มุ่งเพียงลดราคาแต่กลับละเลยความปลอดภัยหรือคุณภาพที่ประชาชนควรได้รับ ทั้งนี้ ยังสะท้อนปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจสำคัญอย่างปาล์มน้ำมัน ยางพารา และข้าว ซึ่งกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรจำนวนมากทั่วประเทศ จึงเสนอให้รัฐบาลเร่งจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเปิดตลาดใหม่และขยายการส่งออกในไตรมาสถัดไป เพื่อช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตรและรักษาเสถียรภาพรายได้ของภาคเกษตรกรรมต่อไป

ขณะที่ในด้านการกระจายอำนาจ นายสรรเพชญตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแม้จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ยังต่ำกว่าร้อยละ 35 ตามกรอบแนวนโยบายการกระจายงบประมาณตามกฎหมาย จึงควรมีการเร่งรัดให้เกิดการกระจายงบประมาณสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เพื่อให้การพัฒนาเกิดขึ้นจากฐานราก และตอบโจทย์พื้นที่ได้ตรงจุดมากขึ้น นายสรรเพชญเสนอว่า ในปีงบประมาณ 2570 รัฐบาลควรกำหนดเป้าหมายการจัดสรรงบท้องถิ่นให้ได้อย่างน้อย ร้อยละ 30 ของงบทั้งหมด และควรมีการกระจายภารกิจด้านการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการกระจายอำนาจและการพัฒนาที่ยั่งยืน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น