บ้านเล็กโก-ลกเดินเครื่องเต็มสูบ ส.ส.กล้าธรรมส่งภรรยา ลงแข่งนายกฯกับทีมอดีตนายกฯ 3 สมัย ที่ขอทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาโดยส่งอดีตรองนายกฯ1สมัยชิมลาง โดยมีกองเชียร์แห่ให้กำลังใจคึกคัก (มีคลิป)
รายงานข่าวบรรยากาศการรับสมัครสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี วันแรกจากพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งมีจำนวน 16 แห่ง โดยแยกเป็นเทศบาลเมือง 3 แห่ง คือ เทศบาลเมืองนราธิวาส เทศบาลเมืองตากใบ และเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ส่วนเทศบาลตำบล มีจำนวน 13 แห่ง และมีการรับเลือกตั้งเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาล จำนวน 2 แห่ง คือ เทศบาลตำบลรือเสาะ และเทศบาลตำบลบาเจาะ
ซึ่งเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ถือได้ว่าเป็นพื้นที่สนามช้างชนช้างของ จ.นราธิวาส ที่ประชาชนให้ความสนใจและจับตามองเป็นกรณีพิเศษ และจากการติดตามการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกเทศมนตรีในครั้งนี้ จึงได้เดินทางมาตรวจสอบการรับสมัครรับเลือกตั้งที่ สำนักงานเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยมีผู้สมัครเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน 2 คน ที่ได้เดินทางมาก่อนเวลา คือ 1.นายไพรัตน์ บินมามะ อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก 1 สมัย สังกัดทีมรักโก-ลกฟ้าใหม่ ที่นางสุชาดา พันธ์นรา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา 2. นางสาลีฮะ มะยูโซ๊ะ ภรรยาของนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคกล้าธรรม สังกัดทีมกล้าทำ ซึ่งถือว่าเป็นบ้านเล็กในพื้นที่สุไหงโก-ลก ที่มีนายสัมพันธ์ และนายอามินทร์ 2 พี่น้อง ส.ส.นราธิวาส แห่งพรรคกล้าธรรม ที่ให้การสนับสนุนภรรยาและพี่สะใภ้อย่างเต็มที่
โดยมีกองเชียร์ของแต่ละฝ่าย ได้เดินทางมาให้กำลังใจ จำนวนกว่า 300 คน โดยแยกมาให้กำลังใจนางสาลีฮะ จำนวน 300 คน มาให้กำลังใจ นายไพรัตน์และนางสุชาดา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก 3 สมัย ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา จำนวน 30 คน
และเมื่อถึงเวลา 08.30 น. ซึ่งถึงเวลากำหนดการรับสมัครสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี นายณรงค์ นิคมรัตน์ ผอ.การเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้มีการเรียกผู้สมัครตำแหน่งนายกเทศมนตรี ทั้ง 2 คน คือ นายไพรัตน์ และนางสาลีฮะ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจที่ต้องตัดสินด้วยการหยิบฉลากลูกบอล ว่าใครจะได้หมายเลขประจำตัวที่เท่าไร
ซึ่งผลปรากฏว่านางสาลีฮะ ได้หมายเลข 1 และนายไพรัตน์ ได้หมายเลข 2 ซึ่งทั้ง 2 คน ได้รอคิวในการลงสมัครรับเลือกตั้งตามลำดับ ส่วนสมาชิกสภาเทศบาลของทั้ง 2 ฝ่าย ก็ได้แยกย้ายกันลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งต้องใช้เวลานานร่วม 3 ชั่วโมงจนแล้วเสร็จ และก่อนที่ นางสาลีฮะ จะเดินทางกลับ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สามี นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นน้องสามี และหัวคะแนะพร้อมประชาชน จำนวนกว่า 300 คน มอบพวงมาลาลัยและดอกกุหลาบ พร้อมตะโกนเสียงเชียร์ดังกึงก้องว่า สาลีฮะ สู้ๆๆๆๆ พร้อมมีธงสีน้ำเงินทีมกล้าทำและป้ายข้อความว่า สู้เพื่อโก-ลก ซึ่งหมายถึงการสู้สุดตัวในการเลือกตั้งครั้งนี้
ในส่วนของนายไพรัตน์ อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก 1 สมัย เมื่อลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วเสร็จก่อนที่จะเดินทางกลับ ได้มีนางมนศรี สุกุล ซึ่งเป็นมารดาและเป็นแกนนำกลุ่มสตรี พร้อมด้วยนายแวสามะ บินมามะ ซึ่งเป็นบิดาและเป็นโต๊ะอิหม่าม รวมทั้งภรรยาและบุตรชาย ได้เดินทางมาให้กำลังใจ ด้วยการโอบกอดหอมแก้มและมอบพวงมาลาลัยและดอกกุหลาบ ส่วนกองเชียร์ ประมาณ 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้มีการมอบพวงมาลาลัยและดอกไม้ พร้อมกับได้ถ่ายรูปที่บริเวณบันไดทางลงของอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พร้อมทั้งได้กล่าวขอเป็นกำลังใจสู้เพื่อคนโก-ลก
และก่อนที่จะเดินทางกลับผู้สื่อข่าวได้พบกับชาวบ้านอีก 2 คน ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นทีมอิสระ พร้อมกับได้สอบถามนางสุชาดา พันธ์นรา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก 3 สมัย ที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับนายไพรัตน์ สังกัดทีมรักโก-ลกฟ้าใหม่ ว่าท่านเปลี่ยนใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก หรือไม่เพราะยังมีกำหนดเวลาถึงวันที่ 4 เมษายน 68 โดยที่ท่านไม่ตอบข้อซักถามแต่อย่างใด มีเพียงแต่ท่านส่งยิ้มมาให้ด้วยท่าทีและหน้าตาที่สดใส
ส่วนประวัตินางสาลีฮะ มะยูโซะ อายุ 46 ปี จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการเมือง หลังจากที่นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคกล้าธรรม ผู้เป็นสามีลงเล่นการเมือง ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจของครอบครัว ซึ่งการลงเล่นการเมืองท้องถิ่นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่ครั้งแรกเมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมา ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก แต่ไม่ประสบความสำเร็จพ่ายแพ้ให้กับนางสุชาดา พันธ์นรา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก 3 สมัย ซึ่งครั้งนี้นางสุชาดา ขอทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับนายไพรัตน์
ส่วนประวัตินายไพรัตน์ อายุ 46 ปี จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา ซึ่งได้สร้างสมประสบการเป็นรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก 1 สมัย หลังจากที่ได้ติดตามแสวงหาความรู้ด้านต่างๆกับนางสุชาดา ในช่วงที่เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจของครอบครัว ซึ่งลงเล่นการเมืองท้องถิ่นเป็นครั้งที่ 2 โดยนายแวสามะ ผู้เป็นบิดาเคยเป็นประธานสภาเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เมื่อหลายสิบปีก่อน และนางมนศรี มารดา ซึ่งเป็นแกนนำสตรี รวมทั้งนางสุชาดา ที่เห็นแววควรคู่อย่างยิ่งเป็นนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ทั้งการเรียนรู้ด้านการพัฒนา ความคิดการอ่าน ที่สามารถนำพากองกู้เมืองสุไหงโก-ลก ให้กลับมาสู่เศรษฐกิจที่ดีเหมือนกับในอดีตได้โดยง่าย
แต่ถึงอย่างไรก็ตามใครจะได้รับชัยชนะในเวทีที่ถือว่าเป็นสนามช้างชนช้างอีกแห่งหนึ่งในครั้งนี้ ต้องรอประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าใครจะเรียกเสียงศรัทธาและมัดใจประชาชนได้มากกว่ากัน อีกไม่นานเกินรอ รู้ผลได้ในวันที่ 11 พฤษภาคม 68 ที่จะถึงนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น