โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ลงพื้นที่จังหวัด นราธิวาส ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความเห็น ร่วมพัฒนาพื้นที่ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ยืนยันพื้นที่ไทยพุทธต้องเพิ่มทหารดูแล (มีคลิป)

 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  ลงพื้นที่จังหวัด นราธิวาส ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความเห็น ร่วมพัฒนาพื้นที่ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ   ยืนยันพื้นที่ไทยพุทธต้องเพิ่มทหารดูแล (มีคลิป)  


ประพันธ์  ฤทธิวงศ์ บรรณาธิการเดลิมิเลอร์ ปลายด้ามขวานชายแดนใต้ สื่อยุคใหม่ สะท้อนความจริง สู่ชายแดนใต้/รายงาน



เมื่อวันที่5 พฤศจิกายน 2566  ที่ สหกรณ์ อรบ.นราธิวาสรักษ์บ้านเกิด จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ รองเลขาพรรคประชาชาติ นายธนาธิป พรหมชื่น กำนันตำบลสุไหงปาดี และเจ้าหน้าที่หน่วยรับผิดชอบในพื้นที่ ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ร่วมพัฒนาพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยมี อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน (อรบ.) จังหวัดนราธิวาส ร่วมต้อนรับและสะท้อนปัญหา

    พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวระหว่างพบปะตอนหนึ่งว่า ความมั่นคง ของมนุษย์ ประชาชนต้องมีคุณภาพที่ดี มีความปลอดภัย มีเศรษฐกิจที่ดี เราต้องมาร่วมมือกันว่าจะทำยังไงให้ คนพื้นที่คืนแผ่นดินเกิดให้มากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจะต้องมีการส่งเสริมสนับสนุน ที่สำคัญรัฐบาลต้องมาคุ้มครอง ปกป้องดูแลความปลอดภัย หากมีข้อเรียกร้องของพี่น้องไทยพุทธมีอะไรก็สามารถเสนอได้ ในส่วนข้อเรียกร้องของพี่น้องไทยพุทธตอนนี้ได้ไปถึงรัฐบาลและรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่จะดูแล ที่สำคัญ เราหวังว่าจะทำความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ทุกคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้  คือ ผมเคยพูดเสมอว่า ถ้าต้องการบริหารราชการในสามจังหวัดคนพุทธต้องอยู่ได้แบบคนพุทธ เช่นเดียวกันกับพี่น้องมุสลิมก็ต้องอยู่ได้แบบมุสลิมในประเทศไทย คือการอยู่แบบพหุวัฒนธรรมและเป็นพหุวัฒนธรรมที่มีความเข้าใจ



       ส่วนตัวในฐานนะรัฐมนตรีก็จะต้องเข้ามาดูแล เข้ามาส่งเสริมเข้ามาสนับสนุน ในบทบาทที่อยู่ในกระทรวงยุติธรรม จะให้ความยุติธรรมกับพวกเราทุกคน และอีกส่วนหนึ่งในบทบาทของรัฐบาลที่จะต้องมาสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคน ซึ่งในการพัฒนาต้องยอมรับว่า สามจังหวัดเราไม่ว่าพี่น้องพุทธ หรือมุสลิม จังหวัดนราธิวาส และปัตตานี เป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุด ซึ่งจาก เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น อาจทำให้รัฐบาลมุ่งไปดูแลแต่เรื่องความมั่นคง จึงส่งผลกระทบกับพวกเราการรวมตัวมาเป็นสหกรณ์จะทำให้รัฐบาลมีช่องทางที่จะส่งเสริมและสนับสนุน












       นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังได้ย้ำถึงนโยบายของพรรคประชาชาติด้วยว่า ในส่วนของนโยบายพรรคประชาชาติ เราจะบอกเสมอว่า ในชุมชนที่มีไทยพุทธมีคนพูดว่าจะต้องถอนทหารออกไป แต่มองว่าควรจะเพิ่มทหารมากขึ้นด้วยซ้ำไป ในชุมชนที่เป็นพี่น้องไทยพุทธอยู่ แต่บางชุมชนที่เป็นมุสลิมอาจจะไม่ต้องการ ทหารที่อยู่ในพื้นที่ อาจจะลำบากมีด่านมีอะไร ก็ว่ากันไป แต่พี่น้องที่เป็นไทยพุทธก็อาจจะต้องเข้ามาดูแล และการรวมตัวมาดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่ดี อยากจะเรียนว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปเราจะมาทำงานร่วมกัน  ผมเป็นรัฐมนตรียุติธรรมก็เป็นรัฐมนตรีของทุกคน พรรคประชาชาติเราประกาศแล้วว่าเป็นพรรคของคนทุกคน เป็นพรรคของพี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

     จากนั้น พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้นำคณะ ไปพบปะนักธุรกิจในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาและ การแก้ปัญหา เศรษฐกิจในพื้นที่ รวมทั้งยังได้รับฟังเสียงสะท้อนในมิติของข้อราชการจากเจ้าหน้าที่ทีมาร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอีกด้วย 

    และ ยังได้เดินทางต่อไปที่บ้านของ นายธนาธิป พรหมชื่น (กำนันเพื่อน) กำนันตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะ นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศบาลเมืองสุไหงโก- ลก  นายวิจิตร สกุลแก้ว ประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดนราธิวาส และประชาชนไทยพุทธ ในพื้นที่นราธิวาส ได้เข้ามาสะท้อนปัญหาการพัฒนาและร่วมหาทางออกของปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้


     ในโอกาสนี้ทางกลุ่มไทยพุทธได้ขอให้รัฐบาลมีการเน้นย้ำการดูแลกลุ่มไทยพุทธในพื้นที่สวามจังหวัดเป็นพิเศษอีกทั้งยังยืนยันไม่เห็นด้วยที่จะมีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่  พร้อมเรียกร้องให้มีนโยบายไทยพุทธคืนถิ่น เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องไทยพุทธได้กลับมาอยู่บ้านเกิด

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น