พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรมเปิดประชุม ต้อนรับคณะ “รัฐมนตรีไทย-ลาว” จับมือล้างบางยาเสพติด บ้านพี่เมืองน้องเผชิญ “นักโทษคดียาล้นคุก”
ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บก.เดลิมิเร่อร์@ปลายด้ามขวานชายแดนใต้
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้อนรับคณะ “รัฐมนตรีไทย-ลาว”
จับมือล้างบางยาเสพติด ย้ำเป็นปัญหานานาชาติ บ้านพี่เมืองน้องเผชิญสถานการณ์
“นักโทษคดียาล้นคุก” หวังผลักดันเป็น “วาระแห่งชาติ” ร่วมกัน
หยุดยานรกทำลายอธิปไตย
ช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย.66 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้การต้อนรับ พลตรี คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ และหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ, พลจัตวา สมหมาย พมมะจัน หัวหน้ากองบัญชาการป้องกันความสงบ แขวงสะหวันนะเขต, พันเอก อินปง จันทะวงสา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด, พันเอก สาลี พุดทะวงหัวหน้ากรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด พร้อมคณะที่รับผิดชอบงานส่วนที่เกี่ยวข้อง รวม 15 ท่านที่ได้เดินทางมาร่วมการประชุมทวิภาคีไทย-ลาว เรื่อง “ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 19”
การประชุมมีขึ้นระหว่างวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย.
ถึงวันจันทร์ที่ 25 ก.ย. ที่ โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา
กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท
โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
และข้าราชการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
พ.ต.อ.ทวี
กล่าวระหว่างการต้อนรับคณะจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
ตอนหนึ่งว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาของคนทั้งโลก
เพราะว่าเป็นเรื่องของการทำลายความเป็นมนุษย์ เป็นเรื่องที่ทำให้คุณภาพของคนในประเทศแต่ละประเทศนั้นต้องเสื่อมสภาพเพราะติดยาเสพติด
ความร่วมมือครั้งนี้
เมื่อเป็นปัญหาของคนทั้งโลก หรือเป็นปัญหาของนานาชาติ
การจะแก้ปัญหายาเสพติดจึงไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่งแก้สำเร็จได้เพียงลำพัง
จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ โดยเฉพาะเมื่อผู้ผลิตหรือผู้ค้ายาเสพติดมีมูลค่าหรือกำไรในการค้าสูง
จึงทำให้ผู้ค้ายาเสพติดพัฒนาวิธีการขนส่งและจำหน่าย
บ้านพี่เมืองน้องเผชิญ “นักโทษคดียาล้นคุก”
จากการติดตามปัญหาของแต่ละประเทศ
พบว่ามีความจำเป็นจะต้องมีความร่วมมือระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะประเทศไทยกับประเทศลาว จากข้อมูลที่ได้รับรายงาน และได้พูดคุยกับ พลตรี
คำกิ่ง ท่านบอกว่าในเรือนจำของประเทศลาวมีนักโทษยาเสพติดถึง 90 เปอร์เซ็นต์
เหมือนกับเรือนจำของประเทศไทย ซึ่งมีนักโทษยาเสพติด 85 เปอร์เซ็นต์
นี่คือสถานการณ์ที่ทั้งสองประเทศจะต้องเผชิญเหมือนกัน
วันนี้การพบปะหารือ และการประชุมทวิภาคีระดับรัฐมนตรีไทย-ลาว ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาและการจัดการยาเสพติดจึงเป็นวาระที่มีความสำคัญ
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้จัดลำดับเรื่องยาเสพติดเป็น “วาระของชาติ” ที่ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งก็ทราบว่าประเทศลาวก็อยากจะทำเป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้นการประชุมที่จะเกิดขึ้น ถือว่าเป็นที่คาดหวังของทั้งสองประเทศว่าปัญหายาเสพติดที่ประสบ เป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่เกิดกับเยาวชน เกิดกับคนในประเทศ
และเชื่อมั่นว่าหลังจากประชุมจะความจริงใจและความร่วมมือที่ดีกับการแก้ไขปัญหา
แม้จะมีอาณาเขตอธิปไตยของแต่ละประเทศก็ตาม แต่ในเรื่องยาเสพติด
มันได้ทำลายอธิปไตยทั้งสองประเทศ ความร่วมมือที่ใกล้ชิดจะสามารถนำพาการแก้ปัญหาได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น