ดร.เชาวฤทธิ์’ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ‘พรรคพลังสังคมใหม่’ ยืนยันพร้อมโหวต ‘พิธา’ เป็นนายกฯ ขอ ส.ว. ยึดเสียงประชาชนเป็นหลัก
ดร.เชาวฤทธิ์ ระบุว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้คะแนนน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ ในตอนแรกคาดหวังไว้ 1.5 ล้านเสียง แต่สุดท้ายก็สู้พรรคใหญ่ไม่ได้ ซึ่งดูบรรยากาศโดยทั่วไปประชาชนเลือกพรรคตามกระแสมากกว่า เลือกตามบุคคล เราเป็นพรรคเล็กก็สู้กระแสพรรคใหญ่ไม่ได้ แต่บางพรรคที่มีการซื้อเสียง แต่ก็ยังสู้กระแสพรรคบางพรรคไม่ได้ ซึ่งพรรคพลังสังคมใหม่ได้คะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ได้ซื้อเสียงทั้งสิ้น
“ขอบคุณประชาชนทั้งประเทศที่ลงคะแนนเลือกพรรคเราเกือบ 2 แสนคะแนน เราสามารถทำงานตอบแทนท่าน ด้วยการดูแลผลประโยชน์ให้ท่าน ทั้งเรื่องการตรวจสอบคอร์รัปชั่น ดูแลความเดือดร้อนของประชาชนทั้งประเทศ เพราะผมเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หากมีปัญหาอะไรสามารถแจ้งที่พรรคได้เลย เราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล และแก้ไข”ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลหรือการพูดคุยกับพรรคการเมืองพรรคอื่นนั้น ดร.เชาวฤทธิ์ ระบุว่า ต้องให้เกียรติพรรคการเมืองที่ได้คะแนนมากเป็นอันดับหนึ่ง ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะประชาชนเป็นคนเลือกมา ยืนยันว่าตนเองพร้อมสนับสนุนพรรคที่รวบรวมเสียงได้มาก และพรรคที่ได้คะแนนมากที่สุด พรรคพลังสังคมใหม่พร้อมโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเสียงของพี่น้องประชาชนได้ตัดสินมาแล้ว และถ้าพรรคลำดับที่หนึ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคที่ได้คะแนนเป็นลำดับที่สอง ก็ค่อยจัดตั้งต่อได้
ดร.เชาวฤทธิ์ ระบุว่าตนเองได้ไปศึกษานโยบายของพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเป็นลำดับต้น ๆ แล้ว ก็พบว่ามีนโยบายบางข้อตรงกันกับของพรรคพลังสังคมใหม่ เช่น เรื่องที่ดินที่ทำกินที่จะต้องออกโฉนดให้ประชาชน ให้ได้มีพื้นที่ในการทำเกษตรกร การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หรือนโยบายอื่น ๆ ที่ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ตนเองก็พร้อมเห็นด้วย แม้จะมีเสียงเดียว แต่ก็อยากช่วยแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน หากเห็นว่าสิ่งไหนมีประโยชน์ก็จะโหวต แต่ถ้าสิ่งไหนมองแล้วว่าเป็นประโยชน์ทับซ้อน ก็ไม่เห็นด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายวันชัย สอนสิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พูดถึงพรรคที่ได้รับการเลือกตั้งอันดับ 1 ว่าอาจไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะขึ้นอยู่กับการรวบรวมเสียงเหมือนการเลือกตั้งปี 62 ดร.เชาวฤทธิ์ ระบุว่า ส.ว. ต้องมองเห็นอำนาจของประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกลขึ้นมา ต้องให้สิทธิ และให้ความสำคัญก่อน ถ้าได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาฯ จะมีปัญหาตามมา อย่างเช่นสภาล่ม
“ขอร้อง ส.ว.ทั้งหลาย ถ้าพรรคการเมืองไหนรวมเสียงได้เกิน 250 - 300 เสียง ก็ต้องสนับสนุนพรรคการเมืองนั้น ไม่ใช่ยึดหลักการว่าไม่ใช่ฝ่ายของท่านแล้ว ไม่เลือก ถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็ทำได้แค่โหวตนายกฯ เพราะมีแค่ 100 กว่าเสียง แต่ทำงานเป็นรัฐบาลไม่ได้ แค่เรื่องงบประมาณก็ไม่สามารถโหวตผ่านได้แล้ว” ดร.เชาวฤทธิ์กล่าวทิ้งท้าย
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #เลือกตั้ง66 #พรรคพลังสังคมใหม่ #เชาวฤทธิ์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น