ประชาธิปัตย์พัทลุง เฟ้นคนรุ่นใหม่ สายเลือดนักการเมืองลงสู้ศึกเลือกตั้ง
…..
เวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมเปิดตัว 3 ผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์พัทลุง ที่โรงเรียนพัทลุงคึกคักสุดเหวี่ยงกับรูปแบบการปราศรัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม ที่เสริมเติมด้วยความสุขความสนุกผสมกับเนื้อหาเชิงนโยบายของพรรค
สนามกีฬาโรงเรียนพัทลุงเนืองแน่นไปด้วยแฟนคลับประชาธิปัตย์ร่วม 30000 คน เก้าอี้ที่เตรียมไว้ 9000 ตัวไม่พอนั่ง เสริมเข้ามาอีก 3000 ตัวก็ยังเต็ม รอบๆสนามก็นั่งมีคนนั่งฟังก็เต็ม ถนนรอบโรงเรียนรถจอดยาวหลายกิโลเมตร ภาพที่ปรากฏสะท้อนถึงการกลับมาฟื้นคืนของประชาธิปัตย์ในสนามภาคใต้
พัทลุงถือเป็นอีกจังหวัดที่ประชาธิปัตย์ยึดครองมายาวนานแบบ “ยกจังหวัด”เพิ่งจะเมื่อการเลือกตั้งปี 62 ที่เสียที่นั่งให้กับภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว “นริศ ขำนุรักษ์” ไว้รักษาหน้าประชาธิปัตย์ไว้ได้บ้าง
“เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราเผลอไปหน่อย ก็ถูกเพื่อนโจมตี ก็เป็นบทเรียนที่เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว”นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวทีพัทลุง
การเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงประชาธิปัตย์เฟ้นหาหน้าใหม่-คนรุ่นใหม่เข้ามาเสริมทัพลงสู้ศึกเลือกตั้ง เขต 1 สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.ที่ครั้งที่แล้วพลาดไป คราวนี้เอาใหม่กับความขยันลงพื้นที่พร้อมกับการหอบหิ้วสายเลือด “ธรรมเพชร” เต็มตัวลงสู้ศึก ที่พ่อ “สุพัฒน์ ธรรมเพชร” ไม่น่าจะให้ลูกพลาดอีกแล้ว แม้บางคนบอกว่า “บ้านใหญ่ธรรมเพชร” ไปอยู่รวมไทยสร้างชาติก็ตาม
“ธรรมเพชร ต้องเสถียร ธรรมเพชร พี่เถียงอยู่นี้ นั่งอยู่หลังเวทีเราเนี่ย พี่เถียรคือธรรมเพชรของแท้” นิพนธ์ กล่าวปราศรัยเพื่อยืนยันว่า ธรรมเพชรของจริงยังอยู่กับประชาธิปัตย์
ส่วนเขต 3 ก็เป็นสายเลือดนักการเมืองรุ่นเก๋า “ดร.เดย์-ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี” ลูกสาวของ “สานันท์ สุพรรณชนะบุรี อดีต ส.ส.คุณภาพสองสมัยของพัทลุง และอดีตนายก อบจ.พัทลุงสองสมัย ที่บอกกับตัวเองว่า “พอแล้ว”ในวัย 70 ปี พร้อมส่งไม้ต่อให้ “ดร.เดย์” อาจารย์ มอ.ตรัง ผู้รับเลือดพ่อมาเต็มเปี่ยม
เขต 3 ก็เป็นคนรุ่นใหม่กิ๊ก “ร่มธรรม ขำนุรักษ์” ลูกชายของ “นริศ ขำนุรักษ์” ส.ส.5 สมัยของพัทลุง ที่สังกัดประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยังนั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยอีกด้วย “ร่มธรรม” เป็นนักเรียนทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน จบแล้วไปเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น รัสเซีย
ประชาธิปัตย์เห็นแววมาตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงเวลาก็ดันพ่อขึ้นบัญชีรายชื่อแล้วส่งลูกลงสมัครรับเลือกตั้งแทน
นี้คือสามผู้สมัครคุณภาพของประชาธิปัตย์พัทลุงที่ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นรุ่นทายาทที่ได้สายเลือดนักการเมืองมาเต็มๆที่ได้เวลาลงสู่สนามด้วยตัวเองกับประสบการณ์ที่เดิมตามหลังพ่อหาเสียงมายาวนาน
แม้บนเวทีปราศรัย “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการประชาธิปัตย์จะพลั้งเผลอไปบ้าง ไปกล่าวพลาดพิงถึง ม.ทักษิณ แต่ทันทีเจ้าตัวก็ออกมายอมรับผิด และขอโทษ ก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายพอ “ผิดแล้วยอมรับผิด”
“ผมกราบขอโทษคณะอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน มหาลัยทักษิณ ทุกคนด้วยครับ
สืบเนื่องจากเวทีปราศรัย และการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุงพรรคประชาธิปัตย์ ณ จังหวัดพัทลุง
ผมต้องกราบขออภัยหากการปราศรัย ซึ่งในบางช่วง
บางตอนอาจทำให้เกิดความไม่สบายใจ ซึ่งในข้อเท็จจริงผมไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นหรือด้อยค่าสถาบันการศึกษาใดทั้งสิ้น และขอน้อมรับคำแนะนำของทุกท่านเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงต่อไป
คำกล่าวขอโทษของ “ส.ส.แทน” ซึ่งแทนเองก็ไม่ได้จบเมืองนอก เป็น “เด็กรามฯ”คนหนึ่ง ที่พ่ายแพ้ต่อระบบการศึกษาแบบ “แพ้คัดออก” และรามคำแหงคือทางเลือก และทางออกของระบบการศึกษาไทย รามคำแหงก็เป็นสถานศึกษาคุณภาพที่สร้างคน สร้างนักการเมืองมามาก
เมื่อรู้ว่าผิดและพร้อมขอโทษ ก็ควรจะได้รับการอภัย และไม่ใช่แค่นั้นวันอังคารที่ 8 มีนาคม ส.ส.แทน จะหอบช่อดอกไม้งามๆไปกราบขอโทษต่ออธิการบดีของ ม.ทักษิณ ที่วิทยาเขตพัทลุง (ป่าพยอม)
สนามเลือกตั้งพัทลุง 3 ที่นั่งจะเป็นการปรลองยุทธกันของ 4 พรรคการเมืองใหญ่ ทั้งประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติไทย และพลังประชารัฐ ถึงที่สุดอำนาจอยู่ในมือประชาชนว่าจะตัดสินใจเลือกใคร พรรคไหนไปเป็นตัวแทนในสภาผู้แทนราษฎร
#นายหัวไทร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น