นายอำเภอรือเสาะ รุดไปเยี่ยมเด็กและผู้ปกครองที่โรงพยาบาลรือเสาะ หลังจากทราบข่าว เด็ก ป.3 ถูกลงโทษลุก- นั่ง 300 ครั้ง ไตวาย เดินไม่ได้

 นายอำเภอรือเสาะ รุดไปเยี่ยมเด็กและผู้ปกครองที่โรงพยาบาลรือเสาะ  หลังจากทราบข่าว เด็ก ป.3 ถูกลงโทษลุก- นั่ง  300 ครั้ง ไตวาย เดินไม่ได้

  ประพันธ์  ฤทธิวงศ์ บก.ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้/รายงาน

    ตามที่ เมื่อวันที่ 24 มค.2566 ปรากฎข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีเด็กนักเรียนชั้นป.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอรือเสาะจ.นราธิวาส ถูกผู้ดูแลหอพักทำโทษลุกนั่ง 300 ครั้งมีอาการสาหัสจนเดินไม่ได้เข้าโรงพยาบาลรือเสาะ จ.นราธิวาส นั้น

 ต่อมา นายณัฎฐ์กร  บุญโรภาคย์  นายอำเภอรือเสาะ รุดไปเยี่ยมเด็กและผู้ปกครองที่รพ.รือเสาะ (ตามภาพที่ปรากฎในสิ่งที่ส่งมาด้วย) และได้เชิญผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไข ประกอบด้วย กำนันตำบลรือเสาะออก กำนันตำบลเรียง ผอ.โรงเรียนบ้านยะบะ ผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครองและผอ.รพ.รือเสาะ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง การให้ความช่วยเหลือและวางมาตรการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก

ในการนี้ อำเภอรือเสาะได้ตรวจสอบแล้วและได้ดำเนินการดังนี้

ซึ่งทางอำเภอได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วปรากฎข้อเท็จจริงว่า

 ดช.มูฮัมหมัดอิฟัต เจ๊ะมามะ อายุ 9 ปี อยู่ชั้นป.3 รร.บ้านยะบะ(อุปการวิทยา)มีผู้ปกครองบิดาชื่อ นายซุลกอนัย  เจ๊ะมามะ  มารดาชื่อ นางนิมูนนี มะแตหะ

     จากการตรวจสอบเบื้องต้นปรากฎว่า ในวันที่ 22 มค.65 ครูผู้ดูแลเด็กของรร.บ้านยะบะ(อุปการวิทยา) อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นโรงเรียนในโครงการประชารัฐในระดับประถม โดยมีนักเรียนทั้งหมด 168 คน มีครูผู้ดูแลเด็กจำนวน 2 คน ได้มีการทำโทษนักเรียน ชั้นป.3 ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 21 คน  เนื่องจากผู้ดูแลเด็กอ้างว่า เด็กมีการเปิดน้ำทิ้งไว้จึงต้องทำโทษเด็กทั้งหมดโดยการให้ทำท่าลุกนั่งจำนวนโดยประมาณ 300 ครั้ง(ข้อมูลจากเด็กที่โดนทำโทษและเข้ารพ.)

    เมื่อช่วงเย็นของวันเดียวกัน ผู้ปกครองของเด็กคนดังกล่าวได้มารับเด็กกลับบ้าน หลังจากนั้นเด็กเริ่มมีอาการไม่สบาย มีอาการปวดขาทั้ง 2 ข้าง ผู้ปกครองได้มีการสอบถามทางไลน์กับครูแต่ไม่ได้มีการชี้แจงและดำเนินการแต่อย่างใด

    และต่อมาในวันที่ 23 มค. 65 เด็กมีอาการไม่ดีขึ้น ผู้ปกครองจึงได้นำเด็กเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ปรากฎว่า แพทย์ได้วินิจฉัยว่า เด็กมีการใช้กล้ามเนื้อขาทั้ง 2 ข้างมากจนผิดปกติ การตรวจเลือดจึงพบว่า ค่าตับสูงขึ้นกว่าปกติ จำนวน 400 (ค่าปกติคือ100) จึงรับเด็กเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในของรพ.รือเสาะ  จ.นราธิวาส โดยทางผู้ปกครองได้มีการสอบถามกับทางโรงเรียนแล้วไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับการดำเนินการจากทางโรงเรียนเช่นเดิม แต่โรงเรียนแจ้งแค่ว่ายินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเท่านั้น

      ต่อมาในวันที่ 24 มค. 66 ผู้ปกครองของเด็กได้ไปแจ้งความ/ลงบันทึกประวันต่อกรณีที่เกิดขึ้นกับทางสภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

.การดำเนินการและการปฏิบัติของอำเภอรือเสาะในกรณีดังกล่าว ดังนี้

    สำหรับจากกรณีดังกล่าว การให้ความช่วยเหลือและวางมาตรการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก 

   ทางโรงเรียนบ้านยะบะ โดยผอ.โรงเรียน ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรักษาพยาบาลของเด็กในกรณีดังกล่าวจนกว่าจะหายเป็นปกติ

   พร้อมที่จะจ่ายชดเชย/สินน้ำใจเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้แก่ผู้ปกครองจำนวน 100,000 บาทโดยจะมีการมอบให้ในวันที่เด็กมีอาการปกติและออกจากรพ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

   ทั้งนี้ทางโรงเรียนบ้านยะบะ ขอน้อมรับผิด และยินดีจะปรับปรุงในการดูแลเด็กและวางมาตรการการควบคุมเด็กให้ดีขึ้น  ส่วนความคืบหน้าจะนำเสนอในโอกาสต่อไป