โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565

วัดดวงศึกชิง ส.ส.เขต 2 สงขลา ล้วนเลือดใหม่ ทั้ง “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย”รุมถล่ม “ศาสตรา”

 วัดดวงศึกชิง ส.ส.เขต 2 สงขลา ล้วนเลือดใหม่ ทั้ง “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย”รุมถล่ม “ศาสตรา”

 




วันก่อนได้กล่าวถึงเขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลาไปแล้ว ซึ่งโดยสรุปในเวลานี้จะเป็นการช่วงชิงกัน 3 คน ระหว่าง “น้องเพชญ บุญญามณี” ลูกชายของ “นิพนธ์ บุญญามณี”รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับประสงค์ บุรีรักษ์ นายกฯแบน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง และเจือ ราชสีห์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรณีตัดสินใจลงเขต และย้ายพรรค

 

 ขอกล่าวถึงเขต 2 สงขลา ซึ่งเป็นเขตชานเมืองของนครหาดใหญ่ เขตนี้เจ้าของเก้าอี้เดิมคือ “ศาสตรา ศรีปาน” จากพรรคพลังประชารัฐ เป็นเด็กปั้นของผู้การฯชาติ เป็นลูกชายของเจ้าของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในหาดใหญ่

 

“ปั้นได้ก็ทุบทิ้งได้

การเลือกตั้งครั้งหน้า พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินออกจากพรรคพลังประชารัฐ ไปสังกัดพรรคสร้างอนาคตไทย ของ “อุตตม สาวนายน” แล้ว และจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 2 ของสงขลา ซึ่งหมายถึงลงชนกับเด็กปั้นของตัวเอง

 

ต้องเข้าใจว่า ผู้การฯชาติเป็นคนเกิดพัทลุง แต่มาเติมโตทางราชในจังหวัดสงขลา อยู่กับค่ายคอหงส์มานาน กว้างขวาง รู้จักคนมาก เคยได้รับเลือกเป็น ส.ส.สงขลาในย่านนี้มาหนึ่งสมัยในสังกัดค่ายทานตะวัน “ความหวังใหม่” เฉียดๆจะได้เป็นรัฐมนตรีมาหลายครั้ง มีชื่อติดโผมาตลอด น้อยเนื้อต่ำใจกับลุงป้อม ที่มองไม่เห็นหัวเลยย้ายพรรคหนี





      ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าถิ่นเก่า ประกาศขอคืนพื้นที่ยึดเขตนี้คืนด้วยการส่ง “นิพัฒน์ อุดมอักษร” ลงสมัครรับเลือกตั้งเขตนี้ ถามว่าแล้วนิพัฒน์คือใคร จากการสืบค้นพบข้อมูลในการแนะนะตัวกับสมาชิกพรรคในวันประชุมสาขาพรรคที่หาดใหญ่

 

“ผมเองเป็นชาวหาดใหญ่โดยกำเนิด เกิดที่นี่ เรียนที่นี่ ทำงานที่นี่ เห็นการเปลี่ยนแปลงของเมืองหาดใหญ่มาโดยตลอด ที่ผ่านมานอกเหนือจากการทำธุรกิจในนามบริษัท เอนกการช่าง จำกัด ผู้นำการผลิตเครื่องจักรกลเกษตรแล้ว ก็ยังทำงานส่วนรวมมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันยังทำหน้าที่นายกสมาคมเอสเอ็มอีจังหวัดสงขลา นายกสโมสรไลออนส์หาดใหญ่ เป็นที่ปรึกษา กรรมการชมรม สมาคม มูลนิธิฯ อีกหลายตำแหน่ง ซึ่งเป็นงานที่ทำด้วยใจเหมือนดั่งคำสอนป๋าเปรม ที่ชาวสงขลาได้ยินเป็นประจำว่า "เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน"

 

ในทางการเมือง “นิพัฒน์”เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มานานแล้ว และได้เข้ามาทำงานกับพรรคครั้งแรกในการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา เมื่อปลายปี 62 ร่วมทีมฝ่ายบริหารในตำแหน่งเลขานุการฯ กับไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา ทีมพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังชนะการเลือกตั้งก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่อำเภอหาดใหญ่โดยเฉพาะ และเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นคือ โครงการก่อสร้างสกายวอล์คและหอชมเมืองหาดใหญ่

 

โครงการดังกล่าว อบจ.ได้ผู้ชนะการประมูลที่ 10.5 ล้านบาท ขณะนี้เริ่มศึกษาออกแบบแล้ว โครงการนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คิดจะทำก็ทำได้ทันที พื้นที่บนเขาคอหงส์ ครอบคลุมหลายหน่วยงาน มีทั้งเขตป่าไม้ เขตทหาร ส่วนราชการ ท้องถิ่น การศึกษาออกแบบต้องทำอย่างรัดกุม

 

“ผมได้เข้าไปดูพื้นที่ตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งหลายคนอาจไม่ทราบว่าการขอใช้พื้นที่เขตทหารนั้นทำได้ยาก ที่ผ่านมาได้เข้าไปพูดคุยเพื่อขอใช้พื้นที่กับแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้บัญชาการ มทบ.42 ค่ายเสนาณรงค์”

 

อีกหนึ่งโครงการใหญ่คือการจัดทำห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ณ อาคารมูลนิธิหอสมุดประชาชนหาดใหญ่ (หอสมุดซุนยัดเซน) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยอบจ.สงขลา ได้เช่าที่ดินเพื่อที่จะทำการก่อสร้างศูนย์เรียนรู้สำหรับเด็กๆ เยาวชน ตลอดจนถึงประชาชนทั่วไป ได้ค้นคว้าหาความรู้ การอบรมคอมพิวเตอร์ การสอนการขายสินค้าผ่านออนไลน์ เป็นศูนย์เรียนรู้ในรูปแบบใหม่ทันสมัยใช้ได้ทุกคน โดยโครงการนี้ก็กำลังจะเริ่มแล้วเช่นกัน

 

โครงการอื่นๆ ยังมีมากมาย ไมว่าจะเป็นการของบจากการยางแห่งประเทศไทย มาสร้างสนามฟุตซอลแก่โรงเรียนศรีนครมูลนิธิ จำนวน 8 แสนบาท และซื้อรองเท้าบู๊ทยางพาราแจกจ่ายแก่เกษตรกรอีก 8 แสนบาท การให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19 ภายใต้ขอบเขตและอำนานหน้าที่ของอบจ.ที่สามารถทำได้ ที่ผ่านมาเน้นการลงมือทำ เน้นการลงพื้นที่ มากกว่าการสร้างภาพสร้างกระแส

 

นิพัฒน์ถือเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ เลือดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเข้ามารับช่วงภารกิจเพื่อชาติต่อจากคนรุ่นก่อน เพื่อให้พรรคได้สืบทอดเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง และเป็นสถานบันทางการเมือง

 

เขต 2 สงขลา นอกจากประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ สร้างอนาคตไทยแล้ว พรรคภูมิใจไทย ก็หมายมั่นปั้นมือ

ส่ง “ฉัตรชัย ชูแก้ว” หรือ“ทนายหมู” ลงชิงด้วยความหวัง และหวังกระแสจาก “ไพร พัฒโน” จากเขต 3 โซนใข่แดงของหาดใหญ่มาช่วยด้วย

กล่าวถึงทนายหมู นอกจากมีอาชีพเป็นทนายความแล้ว ยังเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา (พิพัฒน์ รัชกิจประการ) จากพรรคภูมิใจไทยด้วย ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยหมายมั่นปั่นมือว่า สงขลาจะต้องเพิ่มจาก 1 เป็น 3 หรือ 4 และเขต 2 ก็เป็นเขตเป้าหมาย

 

ทั้งนี้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคภูมิใจไทย มีส.ส.1 ที่นั่งคือนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส่วนที่เหลือเป็นของพรรคพลังประชารัฐ 4 ที่นั่งและพรรคประชาธิปัตย์ 3 ต้องเกาะติดศึกชิง 9 ที่นั่งของสงขลา พรรคไหน ใครจะเข้าวิน

 #นายหัวไทร #เลือกตั้งสงขลา

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น