วัดดวงศึกชิง ส.ส.เขต 2 สงขลา ล้วนเลือดใหม่ ทั้ง “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย”รุมถล่ม “ศาสตรา”
วันก่อนได้กล่าวถึงเขตเลือกตั้งที่ 1
สงขลาไปแล้ว ซึ่งโดยสรุปในเวลานี้จะเป็นการช่วงชิงกัน 3 คน ระหว่าง “น้องเพชญ
บุญญามณี” ลูกชายของ “นิพนธ์ บุญญามณี”รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับประสงค์ บุรีรักษ์ นายกฯแบน
อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง และเจือ ราชสีห์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
กรณีตัดสินใจลงเขต และย้ายพรรค
ขอกล่าวถึงเขต 2 สงขลา
ซึ่งเป็นเขตชานเมืองของนครหาดใหญ่ เขตนี้เจ้าของเก้าอี้เดิมคือ “ศาสตรา ศรีปาน”
จากพรรคพลังประชารัฐ เป็นเด็กปั้นของผู้การฯชาติ
เป็นลูกชายของเจ้าของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในหาดใหญ่
“ปั้นได้ก็ทุบทิ้งได้
การเลือกตั้งครั้งหน้า พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินออกจากพรรคพลังประชารัฐ ไปสังกัดพรรคสร้างอนาคตไทย ของ “อุตตม สาวนายน” แล้ว และจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 2 ของสงขลา ซึ่งหมายถึงลงชนกับเด็กปั้นของตัวเอง
ต้องเข้าใจว่า ผู้การฯชาติเป็นคนเกิดพัทลุง
แต่มาเติมโตทางราชในจังหวัดสงขลา อยู่กับค่ายคอหงส์มานาน กว้างขวาง รู้จักคนมาก
เคยได้รับเลือกเป็น ส.ส.สงขลาในย่านนี้มาหนึ่งสมัยในสังกัดค่ายทานตะวัน
“ความหวังใหม่” เฉียดๆจะได้เป็นรัฐมนตรีมาหลายครั้ง มีชื่อติดโผมาตลอด
น้อยเนื้อต่ำใจกับลุงป้อม ที่มองไม่เห็นหัวเลยย้ายพรรคหนี
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าถิ่นเก่า ประกาศขอคืนพื้นที่ยึดเขตนี้คืนด้วยการส่ง “นิพัฒน์ อุดมอักษร” ลงสมัครรับเลือกตั้งเขตนี้ ถามว่าแล้วนิพัฒน์คือใคร จากการสืบค้นพบข้อมูลในการแนะนะตัวกับสมาชิกพรรคในวันประชุมสาขาพรรคที่หาดใหญ่
“ผมเองเป็นชาวหาดใหญ่โดยกำเนิด เกิดที่นี่
เรียนที่นี่ ทำงานที่นี่ เห็นการเปลี่ยนแปลงของเมืองหาดใหญ่มาโดยตลอด
ที่ผ่านมานอกเหนือจากการทำธุรกิจในนามบริษัท เอนกการช่าง จำกัด
ผู้นำการผลิตเครื่องจักรกลเกษตรแล้ว ก็ยังทำงานส่วนรวมมาอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันยังทำหน้าที่นายกสมาคมเอสเอ็มอีจังหวัดสงขลา นายกสโมสรไลออนส์หาดใหญ่
เป็นที่ปรึกษา กรรมการชมรม สมาคม มูลนิธิฯ อีกหลายตำแหน่ง
ซึ่งเป็นงานที่ทำด้วยใจเหมือนดั่งคำสอนป๋าเปรม ที่ชาวสงขลาได้ยินเป็นประจำว่า
"เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน"
ในทางการเมือง
“นิพัฒน์”เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มานานแล้ว
และได้เข้ามาทำงานกับพรรคครั้งแรกในการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา เมื่อปลายปี 62
ร่วมทีมฝ่ายบริหารในตำแหน่งเลขานุการฯ กับไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.สงขลา
ทีมพรรคประชาธิปัตย์
ภายหลังชนะการเลือกตั้งก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่อำเภอหาดใหญ่โดยเฉพาะ
และเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นคือ
โครงการก่อสร้างสกายวอล์คและหอชมเมืองหาดใหญ่
โครงการดังกล่าว อบจ.ได้ผู้ชนะการประมูลที่
10.5 ล้านบาท ขณะนี้เริ่มศึกษาออกแบบแล้ว
โครงการนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คิดจะทำก็ทำได้ทันที พื้นที่บนเขาคอหงส์
ครอบคลุมหลายหน่วยงาน มีทั้งเขตป่าไม้ เขตทหาร ส่วนราชการ ท้องถิ่น
การศึกษาออกแบบต้องทำอย่างรัดกุม
“ผมได้เข้าไปดูพื้นที่ตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งหลายคนอาจไม่ทราบว่าการขอใช้พื้นที่เขตทหารนั้นทำได้ยาก
ที่ผ่านมาได้เข้าไปพูดคุยเพื่อขอใช้พื้นที่กับแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้บัญชาการ มทบ.42
ค่ายเสนาณรงค์”
อีกหนึ่งโครงการใหญ่คือการจัดทำห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์
ณ อาคารมูลนิธิหอสมุดประชาชนหาดใหญ่ (หอสมุดซุนยัดเซน) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โดยอบจ.สงขลา ได้เช่าที่ดินเพื่อที่จะทำการก่อสร้างศูนย์เรียนรู้สำหรับเด็กๆ
เยาวชน ตลอดจนถึงประชาชนทั่วไป ได้ค้นคว้าหาความรู้ การอบรมคอมพิวเตอร์ การสอนการขายสินค้าผ่านออนไลน์
เป็นศูนย์เรียนรู้ในรูปแบบใหม่ทันสมัยใช้ได้ทุกคน
โดยโครงการนี้ก็กำลังจะเริ่มแล้วเช่นกัน
โครงการอื่นๆ ยังมีมากมาย
ไมว่าจะเป็นการของบจากการยางแห่งประเทศไทย
มาสร้างสนามฟุตซอลแก่โรงเรียนศรีนครมูลนิธิ จำนวน 8 แสนบาท และซื้อรองเท้าบู๊ทยางพาราแจกจ่ายแก่เกษตรกรอีก
8 แสนบาท การให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19
ภายใต้ขอบเขตและอำนานหน้าที่ของอบจ.ที่สามารถทำได้ ที่ผ่านมาเน้นการลงมือทำ
เน้นการลงพื้นที่ มากกว่าการสร้างภาพสร้างกระแส
นิพัฒน์ถือเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ เลือดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเข้ามารับช่วงภารกิจเพื่อชาติต่อจากคนรุ่นก่อน
เพื่อให้พรรคได้สืบทอดเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง และเป็นสถานบันทางการเมือง
เขต 2 สงขลา นอกจากประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ
สร้างอนาคตไทยแล้ว พรรคภูมิใจไทย ก็หมายมั่นปั้นมือ
ส่ง “ฉัตรชัย ชูแก้ว” หรือ“ทนายหมู”
ลงชิงด้วยความหวัง และหวังกระแสจาก “ไพร พัฒโน” จากเขต 3
โซนใข่แดงของหาดใหญ่มาช่วยด้วย
กล่าวถึงทนายหมู นอกจากมีอาชีพเป็นทนายความแล้ว
ยังเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา (พิพัฒน์ รัชกิจประการ)
จากพรรคภูมิใจไทยด้วย ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยหมายมั่นปั่นมือว่า
สงขลาจะต้องเพิ่มจาก 1 เป็น 3 หรือ 4 และเขต 2 ก็เป็นเขตเป้าหมาย
ทั้งนี้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562
พรรคภูมิใจไทย มีส.ส.1 ที่นั่งคือนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส่วนที่เหลือเป็นของพรรคพลังประชารัฐ
4 ที่นั่งและพรรคประชาธิปัตย์ 3 ต้องเกาะติดศึกชิง 9 ที่นั่งของสงขลา พรรคไหน
ใครจะเข้าวิน
#นายหัวไทร
#เลือกตั้งสงขลา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น