หน.คณะพูดคุยสันติสุข จชต.ประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่(สล.3) ความคืบหน้า การดำเนินการพูดคุย สถานการณ์ภาคใต้ล่าสุด เหตุระเบิดป่วน ชายแดนใต้ สมาพันธ์ไทยพุทธ จชต.ยืนหนังสือ ขอความสงบสันติสุข กลับคืนมา (ชมคลิป)
(ชมคลิป) บรรยากาศการประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) ครั้งที่ 7 (ชมคลิป) พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข
ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้า การดำเนินการพูดคุย สถานการณ์ภาคใต้
ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บก.ปลายด้ามขวาน@ ชายแดนใต้
/สล.3 งานสื่อมวลชน การสื่อสาร และเทคโนโลยี/ รายงานภาพข่าว
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา ที่โรงแรม ปาร์คอินทาว อ.เมือง จ.ปัตตานี หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คพส.) นำโดย พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข พลโทธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 เปิดประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่ ครั้งที่ 7 โดยมีกลุ่มผู้ประสานงานทั้ง 8 กลุ่ม เข้าร่วมกว่า 200 ท่าน
โดยที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องความคืบหน้า การดำเนินการพูดคุย สถานการณ์ภาคใต้ล่าสุด รวมถึงมีการพูดคุยตั้งข้อสังเกตุ และข้อเสนอในเรื่องสถานการณ์ความรุนแรง ใน 3 จังหวัดล่าสุดด้วย มีการเสนอเป็นรายจังหวัด ในที่ประชุมยังมีการยื่นหนังสือข้อเสนอจากกลุ่มสมาพันธ์ชาวไทยพุทธ จชต.ยืนหนังสือขอความสงบสันติสุขกลับคืนมา และเรื่องยุติความรุนแรงนำสันติสุข และเรื่องการทำงานในพื้นที่ ความถดถอยชาวไทยพุทธ และกลุ่มสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยื่นข้อเสนอด้วยซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ 5 ครั้ง
ล่าสุดครั้งที่ 5 เมื่อ1 - 2 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้ผลสรุปสำคัญ 2 ข้อ คือ การลดความรุนแรง ระยะที่ 2 เพื่อ ต่อยอดรอมฎอนสันติสุข โดยจะมีการหารือกันในรายละเอียดในการประชุมคณะทำงานทางเทคนิคเร็วๆนี้ และ อีกเรื่องคือ ดำเนินการจัดตั้งคณะติดตามสถานการณ์ร่วม และมีกลไกการปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่คู่ขนานไปด้วย ซึ่งมีผลถึงกลุ่มขบวนการให้ปรับเปลี่ยนแนวทางในการต่อสู้ จากการใช้ความรุนแรงมาสู่การต่อสู้ด้วยสันติวิธีมากขึ้น และมีการพูดคุยในประเด็นสารัตถะ เพื่อนำไปสู่การยุติความรุนแรง ซึ่งทำให้เหตุการณ์ที่ลดลงอย่างมากในห้วงรอมฎอนสันติสุขเป็นการพิสูจน์ทราบได้ว่า กลุ่ม BRN บนโต๊ะเจรจามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มกองกำลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสุดท้ายประเด็นนโยบายแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 3 แนวทางของรัฐบาล(ความมั่นคง การพัฒนา และการพูดคุยฯ) ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงใน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับการพูดคุยก็เป็นข้อเสนอของรัฐบาลเพื่อหาแนวทางสันติวิธี
ซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมรับ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ประชาชนลดความเชื่อมั่น
แต่ยังคงคาดหวังในการพูดคุยสันติสุขต่อไป
พลเอกเอก วัลลภ กล่าวอีกว่า หลายๆองค์กรก็ยังพยายามใช้แนวทางความรุนแรงอยู่ ซึ่งเราให้ปรับเปลี่ยนการใช้ความรุนแรง มาใช้แนวทางสันติ แต่ถ้าใช้ความรุนแรงก็ได้รีบผลกระทบเป็นวงกว้าง และประชาชนก็ออกมาประณาม และต่อต้านการใช้ความรุนแรง ส่วนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเรายังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใดชัดเจน แต่วงการประชุมทุกฝ่ายก็ยืนยันมุ่งมั่นในการพูดคุยหาทางออกร่วมกันได้
ด้าน สล.3
ก็กำลังศึกษาด้านที่เขาเสนอ แล้วก็ฝ่ายเราเสนอ แต่บทสรุปยังไม่ชัดเจน
ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ที่ผ่านมาเราก็พยายามพูดคุย
แต่สิ่งที่เราต้องการคือการลดความรุนแรง เราจะพยายามถึงจุดนั้นให้ได้
ส่วนในครั้งที่ 6 ที่จะมีการพูดคุยสันติสุข ก็จะเป็นการร่วมมือทั้ง
2 ฝ่ายจะทำให้มีประสิทธิภาพควบคุมความรุนแรง.
พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข
ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
อันดับแรกจะต้องรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจน นำผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในที่สุด
อย่างไรก็ตามไม่ว่ากลุ่มไหนที่ก่อเหตุความรุนแรง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
ไม่ว่าจะมีด้านสังคม เศรษฐกิจ ซึ่งสถานการณ์โควิด19
ที่ผ่านมาก็เพิ่งผ่านพ้นไป เศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้น
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ก็ได้รับผลกระทบ ตนก็ขอประณานการก่อเหตุความรุนแรง
ซึ่งการก่อเหตุอย่างนี้ได้รับผลบกระทบทั้งกลุ่มเด็กและสตรี ก็เป็นการละเมิดสิทธิ์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น