คณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) จัดประชุมคัดเลือกคณะประสานงานระดับพื้นที่
ครั้งที่ 6/2565 ขับเคลื่อนงานการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุข
จชต. (ชมคลิป)
ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บก.ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้/กลุ่มงานสื่อมวลชน การสื่อสาร และเทคโนโลยี่
เมื่อ 26 ก.ค.65 เวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา สล.คณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) จัดการประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่
ครั้งที่ 6/2565 (เฉพาะ จ.นราธิวาส) โดยมี พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร
รอง เสธ.ศสว./ผช.เลขานุการคณะประสานงานฯ เป็นประธาน ซึ่ง พ.ท.ปรีชา รุ่งเมือง หน.คณะประสานงานระดับพื้นที่ กล่าวต้อนรับ ณ ห้องประชุม สนง.เขตพื้นที่ประถมศึกษานราธิวาส
เขต 1 อ.เมือง จ.นราธิวาส
ทั้งนี้จัดให้มีประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่
(สล.3) จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสงขลา
สำหรับผลการคัดเลือก
รายชื่อคณะทำงานระดับจังหวัดนราธิวาส จำนวน 9 คน
มีดังนี้
1.นายวิจิตร
สกุลแก้ว 2.นายซูวัน
เบ็ญรอฮมาน 3.นายซาการียา บิณยูซูฟ 4. นายมูฮัมหมัดวาฟี มะดากะกุล 5.นางธิดา วรรณลักษณ์
6.นายกรีฑา
แดงดี 7.นายตูแวดานียา ตูแวแมแง 8.นางพารีดะ อาลีชู
9.นายอับดุลปาตะ
ยูโซะ 10.นายตูแวดานียา มือรีงิง
ผลสรุปการประชุมความคิดเห็นต่อการขับเคลื่อนงานการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้
1.มีความเป็นกังวล
และต้องระมัดระวังการใช้คำของฝ่ายความมั่นคง เช่น คำว่า “การรักษาอำนาจรัฐ”
เพราะอาจจะรุนแรงต่อความรู้สึกของพี่น้องในพื้นที่
2.อยากให้ฝ่ายความมั่นคงสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น
เมื่อมีการบังคับใช้กฏหมาย (ปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม)
เพราะปัจจุบันฝ่ายรัฐยังแพ้เรื่องการให้ข้อมูลข่าวสาร
3.หารือเรื่องการใช้คำ (สโลแกน) เช่น
เข้าพรรษาสันติ ว่าไม่ควรใช้คำแบบนี้ เพราะห้วง รอมฎอนสันติ
ภาครัฐประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม หากใช้สโลแกนคล้ายกัน
เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้วงเข้าพรรษาจะทำให้ดูเหมือนเป็นความล้มเหลวทั้งหมด
4.กังวลกับการเกิดขึ้นใหม่ของแนวร่วม
ยกตัวอย่างเคสที่ ต.สาวอ อ.เรือเสาะ เสียชีวิต 2 แต่เกิดขึ้นใหม่อีก 100
เพราะการทำความเข้าใจของฝ่ายรัฐยังไม่ดีพอ
รวมทั้งมีการปลุกระดมของผู้เห็นต่างจากรัฐ
5.มองว่าการทำงานของ สล.3
ในพื้นที่ ปัจจุบันขับเคลื่อนได้ดีพอสมควร
และควรใช้เครือข่ายที่มีอยู่ในพื้นที่ในพื้นที่
เป็นตัวเชื่อมโยงประชาชนในพื้นที่กับ สล.3
6.ต้องการให้ผู้นำศาสนาออกมาสร้างความรับรู้
สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง แท้จริง โดยด่วนในเรื่องของการ ชะฮีด ,ดารุลฮารบี
และ ญีฮาด
7.ควรจัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจ ใน สล.3
เพื่อสร้างความรับรู้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
เมื่อปรากฏประเด็นความไม่เข้าใจของพี่น้องในพื้นที่ เช่น
พื้นที่ไหนมีประเด็นก็ให้ทีมงานชุดนี้เข้าไปดำเนินการได้ทันที
8.ปรากฏภาพข่าวการกลับมาอีกครั้งของกลุ่มสตรีในพื้นที่
อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นข้อกังวลของพี่น้องในพื้นที่เป็นอย่างมาก
9.สล.3
เป็นภาคประชาสังคมที่ดีที่สุดในพื้นที่ ณ เวลานี้
10.ศูนย์หลักประกันสุขภาพนราธิวาส
ขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์
11.”สันติสุข” ยังไม่ถึงเป้าหมาย เพราะอะไร?
จะมีวิธีการอย่างไร? มีข้อเสนอที่เป็นทางออกอย่างไร? ข้อเสนอ 1)เน้นกิจกรรมทางวัฒนธรรม
เช่นมัสยิด-วัด สีเขียว หรือ กิจกรรมอาซูรอสัมพันธ์ ระดับอำเภอ-จังหวัด 2) การเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวทีสภาประชาธิปไตย
3)สันติสุขจะเกิดขึ้นได้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกๆฝ่าย
12.นโยบาย 4
ข้อของท่าน พล.ท.ธิราฯ คือ 1.ลดเหตุการณ์ 2.การเสริมสร้างความเข้าใจ
3.การบังคับใช้กฏหมาย และ 4.การพัฒนา
13.มีการคัดเลือกคณะทำงานระดับจังหวัด จำนวน 9 คน
ซึ่งมี 2 คนจะถูกคัดเลือกเป็น ผช.เลขานุการ
เพื่อการขับเคลื่อนงานในระยะต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
1.พระครูสุวัฒนาภรณ์ 2.ดร.ดุลยรัตน์ บูยูโส๊ะ
3.ร.ต.อ.เจษฏาวุธ เพ็งลาย 4.นายจรัญ รองสวัสดิ์
5.นายนพรุจน์
แก้วรุ่งเรือง 6.นายธนิศร์ ทองสุข
7.นายสุรศักดิ์
อะหวัง 8.อับดุลสุโกร ดินอะ 9.นายมังโสด หมะเตะ
ผลสรุปการประชุมความคิดเห็นต่อการขับเคลื่อนงานการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้
1.ท่านประธาน พลโทธิราฯ
บอกเล่าสถานการณ์การสร้างสันติสุขในพื้นที่ตั้งแต่รอมฎอนสันติสู่ฮัจญ์สันติมุ่งสู่เข้าพรรษาสันติ
โดยขอให้ทางคณะมุ่งเสริมสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการพูดคุยฯ ในพื้นที่
2.สร้างปฏิสัมพันธ์กับชุมชนโดยอาศัยการประชุมสภาประชาธิปไตยชุมชนเป็นเครื่องมือ(หนุนเสริม)
เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมให้มากที่สุด
3.สร้างพรรคพวกเข้ามามีส่วนร่วมโดยเน้นปริมาณนำคุณภาพ
โดยผู้กองชมฯ เสนอให้มีการเฟ้นหาตัวแทนให้ครบทุกตำบล
อาจจะมีการเสนอมาจากเวทีประชุมของสภาประชาธิปไตยตำบลก็ได้
4.ท่าน สส.นณัชนนท์ ศรีก่อเกื้อ
เสนอให้คณะประสานงานระดับพื้นที่
ต้องเร่งสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนหรือหน่วยงานราชการรู้จัก สล.3
ให้มากกว่านี้ โดยท่านจะเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์และนำเรื่อง สล.3
ไปเล่าต่อ อาจจะมีการคุยที่สภาผู้แทนฯ เป็นต้น
5.ตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดโดยให้ครอบคลุมพื้นที่และกลุ่มงานเพื่อเป็นการเชื่อมงานกับผู้ช่วยเลขาฯ
สำหรับจังหวัดปัตตานี ได้จัดให้มีการประชุมเมื่อวันที่ 27
ก.ค.65 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม รร.ซี เอส อ.เมือง
จ.ปัตตานี
รายชื่อคณะทำงานระดับจังหวัดปัตตานี จำนวน 9 คน
มีดังนี้
1.พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ 2.นายมาหามะปอไซ ลันจา 3.นายอนาวิน เปาะซู 4.นายแวรอมลี แวบูละ 5.นางคำนึง ชำนาญกิจ
6.นางสุมาลี
ขุนพิทักษ์ 7.นางสาวกันตพัฒน์ ทวีผลทรัพย์ 8.นาย มูฮัมหมัดนาเซร์ สุหลง 9.ดร.ไฟซ็อล หะยีอาวัง
ผลสรุปการประชุมความคิดเห็นต่อการขับเคลื่อนงานการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้
1.กำหนดพื้นที่ “เวทีประชาธิปไตยตำบลต้นแบบ”
ขั้นต้นเลือกพื้นที่ ต.หนองแรด อ.ยะหริ่ง เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อม
โดยกำหนดไปดูงานเพื่อนำมาต่อยอดให้เกิดเป็น “สภาชุมชน” หนองแรดโมเดล
ซึ่งในที่ประชุมเห็นด้วย
2.ยังมีบางพื้นที่ที่ยังไม่สามารถเข้าร่วมประชุม
สภาประชาธิปไตยตำบล ได้ ทั้งที่มีหนังสือประสานขอเข้าร่วมประชุมฯ แล้วก็ตาม
3.ประสิทธิภาพหรือศักยภาพของคณะประสานงานระดับพื้นที่
อาจจะทำงานได้ไม่ดีมากนัก เพราะเกิดความสับสนในความรู้สึกของคนในชุมชนต่อบทบาท
หน้าที่ของคณะประสานงาน
4.เสนอให้ สล.3
แสดงตัวตนที่ชัดเจน เด่นชัด เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจ
สร้างความเชื่อมั่นกับพี่น้องในพื้นที่
5.BRN รู้สึกว่ารัฐไทยไม่มีความจริงใจ
ไม่ยอมลงนามในข้อตกลง
6.การยุติของ รอมฎอนสันติ เพราะ BRN รู้สึกเสียเปรียบทางการเมือง
7.การเรียกร้อง “เข้าพรรษาสันติ”
ไม่ใช่เพื่อพี่น้องชาวพุทธเท่านั้น แต่เพื่อทุกคนในพื้นที่
8.จะมีวิธีไหนให้สัดส่วนของ สภาประชาธิปไตยตำบล
มีเด็กและสตรีมากขึ้น
9.บรรยายกาศ 1-2
เดือนที่ผ่านมาเริ่มมีการขึ้นป้ายหมายจับตามด่านตรวจในพื้นที่ อ.เมือง อีกครั้ง
รวมถึงเริ่มมีการถ่ายบัตรประชาชน และการลาดเวนของฝ่ายความมั่นคงมากขึ้น
รวมถึงมีการปะทะและติดตามจับกุมคดีความมั่นคง
ซึ่งจะทำอย่างไรเมื่อมีการปิดล้อมจะไม่มีผู้สูญเสีย
10.หารือเรื่องด่านตรวจที่ไม่มี จนท.ประจำด่าน
และด่านที่มีระยะห่างจากกันไม่มาก สามารถยุบได้หรือไม่
11.เรื่องงบประมาณสนับสนุนเยาวชนหัวละ 20
บาท ของตาดีกา บางพื้นที่มีการหัก 5 บาท
12.ปัจจุบันมีการ IO ข่าวสารของทั้งฝ่ายรัฐ
และฝ่ายผู้เห็นต่าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะประสานงาน ที่จะต้องเข้าไปสร้างความรับรู้
และสร้างความเข้าใจ
13.สล.3
เป็นภาคประชาสังคมที่ดีที่สุดในพื้นที่ ณ เวลานี้
14.นโยบาย 4
ข้อของท่าน พล.ท.ธิราฯ คือ 1.ลดเหตุการณ์ 2.การเสริมสร้างความเข้าใจ
3.การบังคับใช้กฏหมาย และ 4.การพัฒนา
15.การคัดเลือกคณะทำงานระดับจังหวัด จำนวน 10
คน ซึ่งมี 2 คนจะถูกคัดเลือกเป็น ผช.เลขานุการ
เพื่อการขับเคลื่อนงานในระยะต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น