นราธิวาส นายอำเภอรือเสาะ เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์โรงเรียนกับชุมชน
วันที่ 13 สิงหาคม 2563 นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์โรงเรียนกับชุมชน โดยมีกิจกรรมกวนอาซูรอในโอกาสขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินอิสลาม ณ โรงเรียนบ้านมะนังปันยัง หมู่ที่ 2 ตำบลสามัคคี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
โรงเรียนมะนังปันยัง มีนักเรียน จำนวน 204 คน ครู 25 คน นักการภารโรง 2 คน เป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1-3, ประถมศึกษา ป.1-6, มัธยมศึกษา ม.1-3 มีเขตรับผิดชอบจำนวน 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 บ้านปูโป, หมู่ที่ 2 บ้านมะนังปันยัง, หมู่ที่ 7 บ้านบลูกา ตำบลสามัคคี
ได้รับการสนัยสนุนงบประมาณจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 1 ซึ่งมีกิจกรรมกวนอาซูรอและประกวดอาซูรอ การสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรงเรียนไม่ใช่ของผู้อำนวยการโรงเรียนหรือครู บุคลากรเหล่านี้ เมื่อถึงเวลาก็ย้ายไปหรือเกษียณอายุ แต่โรงเรียนจะอยู่คู่กับชุมชนตลอดไป
จึงต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา
ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูต้องไปเยี่ยมนักเรียนและผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อติดตามสอบถามทุกข์สุข สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งมีนางสาวกัสมานี มามะ
เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมะนังปันยัง
กิจกรรมประกวดอาซูรอ ได้มอบหมายให้
นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ เป็นประธานคณะกรรมการ, นายมูฮำหมัดพาอูซี
เจ๊ะซู ผู้อำนวยการโรงเรียนลูโบะบูโละ, นางยามีนา มะแด
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านมะนังปันยัง, ร้อยเอกบุญชวน
ชูช่วย ผู้บังคับหน่วยทหารพราน ที่ 4601, และนายณรงค์ฤทธิ์ มะยีมิ
รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสามัคคี เป็นกรรมการ
ผลการประกวดอาซูรอ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่
บ้านปูโป,รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ บ้านบลูกา,รองชนะเลิศอันดับ
2 ได้แก่ โรงเรียนมะนังปันยัง,และรางวัลชมเชย ได้แก่ บ้านมะนังปันยัง,
โดยมีนางสาวฮานูน๊ะ โล๊ะมะ ครูโรงเรียนบ้านมะนังปันยัง
เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวก
นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาซูรอ
เป็นภาษาอาหรับ หมายถึงวันที่ ๑๐ ของเดือนมูฮัรรอม ซึ่งเป็นเดือน ที่ ๑ ตาม
ฮิจเราะห์ศักราช (ศักราชอิสลาม
ซึ่งนับวันตามจันทรคติ)
คำว่า อาซูรอ มีรากศัพท์มาจากภาษาอาหรับ แปลว่า
การผสมหรือรวมกัน หมายถึง การนำสิ่งต่างๆหลายอย่างมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
การกวนอาซูรอมิได้เป็นพิธีกรรมหรือศาสนกิจที่บังคับให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามต้องปฏิบัติ
แต่เป็นกิจกรรมที่ปฏิบัติเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
ในสมัยนบีนุฮ ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ยังความเสียหายแก่ทรัพย์สินไร่นาของประชาชนไปทั่วทุกแห่งหน ทำให้เกิดการขาดอาหาร นบีนุฮ
จึงประกาศให้ผู้ที่มีสิ่งของที่เหลือพอจะกินได้ ให้เอามากองรวมกัน
และให้เอาของเหล่านั้นมากวนเข้าด้วยกัน ทำเป็นอาหาร สาวกของท่านได้กินอาหารโดยทั่วกันและเหมือนกัน
ในสมัยนบีมูฮัมมัด (ซ.ล.) เหตุการณ์ทำนองนี้ได้เกิดขึ้น
ขณะที่กองทหารของท่านกลับจากการรบที่บาดาร ปรากฏว่าทหารมีอาหารไม่พอกิน
ท่านจึงใช้วิธีการของนบีนุฮ โดยให้ทุกคนเอาข้าวของที่กินได้มากวนเข้าด้วยกัน
แล้วแบ่งกันกินในหมู่ทหาร
ประเพณีการกวนอาซูรอเป็นประเพณีที่สำคัญของชาวมุสลิมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนานนับพันปี
ตามความเชื่อของชาวมุสลิม ประเพณีการกวนอาซูรอ
เป็นการรำลึกถึงความยากลำบากของศาสดานุฮ หรือ นบีนุฮ
(โนอา)โดยเชื่อว่าในสมัยของท่านมีเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่
น้ำท่วมโลกเป็นระยะเวลานาน ท่านนบีนูฮ ซึ่งล่องลอยเรืออยู่เป็นเวลานาน ทำให้อาหารที่ตระเตรียมไว้ร่อยหรอลง
จึงได้นำส่วนที่พอจะมีเหลืออยู่เอามารวมแล้วกวนกินกัน
จึงกลายเป็นตำนานที่มาของอาซูรอ
และกำหนดไว้ในหลักศาสนาให้เป็นประเพณีที่ต้องปฏิบัติ
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน
ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ก็ยังมีการจัดเป็นงานประเพณีกวนอาซูรอขึ้นในชุมชนเป็นประจำทุกปี ใช้ชื่อว่า “งานอาซูรอสัมพันธ์” คำว่า อาซูรอ คือคำในภาษาอาหรับ แปลว่า การผสม ในที่นี้หมายถึงการนำของที่รับประทานได้ทั้งของคาวของหวานจำนวน 10 อย่าง มากวนรวมกัน อีกทั้งยังหมายถึง วันที่ 10 ของเดือนมุฮัรรอม ซึ่งเป็นเดือนแรกของฮิจเราะห์ศักราชตามปฏิทินศาสนาอิสลาม เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาปีใหม่ของชาวมุสลิม โดยประเพณีอาซูรอสัมพันธ์จะจัดขึ้นในห้วงเวลานี้ ในทุกๆ หมู่บ้าน ชาวบ้านจะรวมตัวกันกวนอาซูรอ และมีกิจกรรม ร่วมไม้ ร่วมมือ ร่วมใจต่อเนื่องทั้งเดือน
ประเพณีการกวนอาซูรอ จึงเป็นประเพณีที่มีความสำคัญ
เป็นการนำวัฒนธรรมที่ดีงามมาจัดเป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ขึ้นในชุมชน
เกิดความร่วมมือทั้งในหมู่พี่น้องประชาชนและหน่วยงานในท้องถิ่น เมื่อถึงเดือนมูฮัรรอม
ชาวมุสลิมในพื้นที่ต่างๆ จะมีการหารือกันเพื่อจัดกิจกรรม กวนอาซูรอ ขึ้น
โดยมีเจ้าภาพจัดขึ้นตามบ้านบ้าง ตามมัสยิดหรือปอเนาะบ้าง
ทั่วทุกพื้นที่ตลอดทั้งเดือนมูฮัรรอม
ในเดือนนี้ท่านศาสดามูฮำหมัด(ซ.ล.)
ส่งเสริมให้ถือศีลอดสุนัต(ปอซอ)ภาคสมัครใจ ตั้งแต่วันที่ 1-10 ของเดือน หรือวันที่
9-10 ของเดือน ถ้าไม่สามารถทำได้ ก็จงถือศีลอด(ปอซอ)ในวันที่ 10 ของมูฮัรรอม
เพื่อจะได้รับผลบุญจากอัลลอฮ์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น