โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2563

EA ร่วมกับ “กลุ่มช่วยกัน” มอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคให้ ม.สงขลานครินทร์ เพื่อกระจายแก่โรงพยาบาลทั่วภาคใต้ พร้อมชวนโหลดแอปฯ"หมอชนะ"ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19รอบใหม่


EA ร่วมกับ “กลุ่มช่วยกัน” มอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคให้ ม.สงขลานครินทร์ เพื่อกระจายแก่โรงพยาบาลทั่วภาคใต้ พร้อมชวนโหลดแอปฯ"หมอชนะ"ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19รอบใหม่


EA ร่วมกับ “กลุ่มช่วยกัน” มอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคให้ ม.สงขลานครินทร์ เพื่อกระจายแก่โรงพยาบาลทั่วภาคใต้ พร้อมชวนโหลดแอปฯ"หมอชนะ"ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19รอบใหม่


      บ่ายวันนี้ (6 มิถุนายน 2563) ณ อาคารศูนย์กีฬา มหาวิทยาลัยสงขลานายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ร่วมกับ"กลุ่มช่วยกัน" ส่งมอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคในระบบปรับอากาศ เครื่องกรองอากาศและอุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรค มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท

 เพื่อนำไปติดตั้งและใช้งานในโรงพยาบาลทั่วภาคใต้ เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่มารับบริการ โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และคณะผู้บริหารเป็นผู้แทนรับมอบ โดย ม.อ. จะเป็นศูนย์กลางในการส่งมอบอุปกรณ์และความช่วยเหลือไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วภาคใต้ทั้งหมด

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวขอบคุณโครงการดีๆ ของ “กลุ่มช่วยกัน” ซึ่งมีเจตจำนงเดียวกัน คือการร่วมมือกันช่วยเหลือคนไทย ช่วยกันแก้ไขปัญหาของประเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดีๆ และมีความยินดีในการช่วยกระจายสิ่งของที่ได้รับ ส่งมอบไปยังบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลทั่วภาคใต้ โดยจะเร่งส่งมอบไปยังโรงพยาบาลต่างๆทั่วภาคใต้ ตามความประสงค์ของ “กลุ่มช่วยกัน” โดยเร็วต่อไป

นายสมโภชน์ กล่าวว่า บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์ และลม น้ำมันไบโอดีเซล และได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน  ยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มผู้ก่อตั้ง “กลุ่มช่วยกัน” ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

โดยร่วมมือกับสมาชิกและพันธมิตรจำนวนมากที่มีเป้าหมายร่วมกัน ภายใต้เจตน์จำนงว่า สมาชิกและพันธมิตรของกลุ่มช่วยกันจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศ ในรูปของกลุ่มอิสระ โดยไม่หวังผลประโยชน์ โครงการของกลุ่ม EA และกลุ่มช่วยกันที่ผ่านมานั้นได้มีการส่งมอบมอบเครื่องกรองอากาศเพื่อกำจัดเชื้อโรค อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันโควิด-19 มาแล้วหลายโรงพยาบาล และเดินหน้าโครงการส่งอุปกรณ์กำจัดเชื้อโรคให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ

จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปี พบว่าแม้ว่า ภาครัฐจะมีมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และป้องกันออกมาหลากหลายรูปแบบ แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็ยังคงส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง รุนแรง และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วมาก จึงมีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะเข้าร่วมช่วยเหลือคนไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19

 ซึ่งแม้ว่าจะเริ่มมีการติดเชื้อรายใหม่ลดลง แต่องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่า COVID-19 จะยังคงอยู่ไปอีกระยะใหญ่ จึงจำเป็นต้องหาวิธีการเพื่อประคับประคองชีวิต เพื่อให้คนไทยสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ภายใต้ข้อจำกัดที่ยังไม่มีวัคซีนและยาที่ใช้ได้ผล จึงร่วมมือกับพันธมิตรดำเนินโครงการช่วยเหลือต่างๆ ในชื่อ “กลุ่มช่วยกัน”

นอกจากนี้ทาง บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ร่วมกับ"กลุ่มช่วยกัน" เชิญชวนให้ประชาชนดาวน์โหลดแอป "หมอชนะ" ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้เป็นเครื่องประเมินความเสี่ยงของตัวเอง หรือเป็น eHealth Passport ผู้ใช้สามารถทราบความเสี่ยงของตนเองจากกิจกรรมและบุคคลที่ตนเองได้ใกล้ชิดในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดเด่นจากการนำ Bluetooth มาทำงานร่วมกับ GPS

 ทำให้สามารถติดตามได้ว่าผู้ใช้ได้เคยใกล้ชิดผู้ป่วยหรือได้เดินทางไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยงและใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในระยะรัศมี 5 เมตร จึงทำให้สามารถคัดแยกผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อในวงที่แคบลงได้ อีกทั้งประเมินความเสี่ยงของสถานที่ต่างๆ ได้

จึงช่วยควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กำลังจะเปิดเมืองและการคืนการใช้ชีวิตของคนในสังคม “หมอชนะ” จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการลดโอกาสการเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามโครงการต่าง ๆ ของ “กลุ่มช่วยกัน” หรือเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.chuaygun.com และ facebook กลุ่มช่วยกัน
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น