โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

ตำรวจลำทับ จ.กระบี่ สกัดจับหนุ่มเฝ้าบ่อกุ้ง ขณะขนใบกระท่อมหนักกว่า30 ก.ก. จากนครศรีธรรมราชเตรียมเอาไปขายที่จังหวัดพังงา เผยซื้อมากก.ละ420 บาท กะฟันกำไรกก.ละ900 แต่ฝันสลายถูกจับกุมซะก่อน


ตำรวจลำทับ จ.กระบี่ สกัดจับหนุ่มเฝ้าบ่อกุ้ง ขณะขนใบกระท่อมหนักกว่า30 ก.ก.  จากนครศรีธรรมราชเตรียมเอาไปขายที่จังหวัดพังงา  เผยซื้อมากก.ละ420 บาท กะฟันกำไรกก.ละ900 แต่ฝันสลายถูกจับกุมซะก่อน



          เมื่อวันที่22 มีนาคม 2561 ร.ต.อ.บุญฤทธิ์ คงดำ รอง สวป.สภ.ลำทับ จ.กระบี่ พร้อมด้วย สายตรวจรถยนต์,สายตรวจรถจักรยานยนต์  สภ.ลำทับ  รวม 4 นาย ได้ร่วมกันควบคุมตัวนายสันติ มีนุ่น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10  ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา  มาทำการสอบสวนที่ สภ.ลำทับ พร้อมของกลาง ใบพืชกระท่อม จำนวน 162 มัด น้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัม และรถยนต์ 1คัน โตโยต้า สปอตไรเดอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กจ.8394 สงขลา


          หลังตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณสามแยกหน้าตลาดลำทับ ม.5 ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่   เมื่อคืนที่ผ่านมา  แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5(ใบพืชกระท่อม)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย


           ร.ต.อ.บุญฤทธิ์ เปิดเผยว่า ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้รับรับแจ้งจากสายว่ามีการลักลอบ ขนพืชกระท่อมซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษ ผ่านเส้นทางถนนสายลำทับคลองท่อม จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ภายใต้การบังคับอำนวยการของ พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล ผกก.สภ.ลำทับ  ตั้งจุดสกัดบริเวณสามแยกตลาดลำทับ

          ปรากฏว่า ได้มีนายสันติฯผู้ต้องหาขับรถยนต์โตโยต้าสปอตไรเดอร์ ขับมาทางจุดตรวจ ท่าทางมีพิรุธจึงขอทำการตรวจค้นพบของกลางพืชกระท่อมบรรจุถุง จำนวนมากซุกซ่อนอยู่เบาะหลังรถ จึงได้จับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลาง  แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดประเภท5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 

        เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับว่า  มีอาชีพเฝ้าบ่อเลี้ยงกุ้งในพื้นที่จังหวัดพังงา ได้ซื้อพืชกระท่อมมาจาก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ในราคา กก.ละ420บาท    เพื่อจะนำไปส่งขายในราคากก.ละ900บาท ที่จังหวัดพังงา แต่มาถูกจับกุมตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขอบคุณข้อมูลภาพ/ข่าว/กระบี่
ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น