โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2561

จากกรณีที่ชาวบ้าน บ้านในลุ่ม ม.3 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เหมารถบัสบุกถึงสำนักนายกรัฐมนตรีร้องขอความช่วยเหลือเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

จากกรณีที่ชาวบ้าน บ้านในลุ่ม ม.3 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช  เหมารถบัสบุกถึงสำนักนายกรัฐมนตรีร้องขอความช่วยเหลือเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา  



               เรื่องถูกนายทุนออกเอกสารที่ดินทับที่อยู่อาศัย75 ครัวเรือน ชาวบ้านอาศัยกว่า 380คน  ชาวบ้านกล่าวว่าที่ดินที่ชาวบ้านอาศัยอยู่เดิมเป็นเกาะกลางเล็กๆของปากน้ำสิชล ซึ่งอาศัยมากว่า 40 ปี แล้ว ซึ่งตอนหลังทางเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าได้ดูดทรายในลำคลองที่ตื้นเขินแล้วนำมาถมที่บริเวณที่ชาวบ้านอยู่ทำให้มีพื้นที่เกาะขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยจนกระทั่งมีพื้นที่มาเชื่อมต่อกับที่ดินของนายทุนที่อยู่ริมลำคลองทำให้เกิดปัญหาเรื่องเขตแดนและความไม่ชัดเจน จนกระทั่งมีปัญหากันมาตลอด  ไฟฟ้า ประปา ก็ไม่สามารถดินท่อผ่านได้  เพราะนายทุนไม่ให้ผ่านเส้นทาง    

                ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้วแต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนจนปล่อยให้ยืดเยื้อมานานหลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน      และเมื่อกลางปี60ที่ผ่านมา ชาวบ้านเข้าขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษสิชล    และได้มีดำเนินการเชิญหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ลงพื้นที่ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา 

                 จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2เดือนที่ผ่านมา สำนักงานที่ดินสาขาสิชลซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงได้มารังวัดพื้นที่ใหม่แล้ว  และยืนยันว่าเอกสารสิทธิ์ของนายทุนได้มาถูกต้องตามกฎหมาย    ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ  จึงได้รวมตัวกันเดินทางไปสำนักนายกรัฐมนตรีขอวอนให้นายกฯ ช่วยลงมาช่วยเหลือ   โดยชาวบ้านมีหลักฐาน ที่ชัดเจน จากภาพถ่ายทางอากาศ และแผนที่ระบุว่าที่เป็นเกาะกลางน้ำจริง    


             ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา พลตรีพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่4 ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายแผนที่กองทัพภาคที่4     มทบ.41.   มทบ.44  และค่ายฝึกการรบพิเศษสิชลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง  ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ  และจากนั้นถัดมาอีก2วันก็ได้มีน.ส.สุธีย์ ญาณชโรทร ผู้ตรวจราชการกรมที่ดินเขต 11 พร้อมคณะสำนักงานกรมที่ดินส่วนกลาง  ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในเรื่องนี้ 


               ต่อมานายเศกสรรค์ กังสะวิบูลย์  ได้มอบอำนาจจาก  นายทศวร ทิพยมงคล  ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้ ได้เดินทางพร้อมหอบเอกสารเกี่ยวที่ดินแปลงนี้ทั้งหมดเข้าชี้แจงขอความเป็นธรรมกับศูนย์ข่าวนคร 24 ชั่วโมง สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช  และกองทัพภาคที่ที่ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล  กล่าวว่าขอยืนยันว่าที่ดินไม่ได้เป็นของนายทุนตามที่ถูกชาวบ้านกล่าวอ้าง   ที่ดินแปลงนี้เป็นสมบัติของนายทศวร  จำนวน 73 ไร่ ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษมาจากรุ่นสู่รุ่นตกทอดเป็นรุ่นที่3 แล้ว

              ตั้งแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์มีการครอบครองตั้งแต่สมัยรัชกาลที่6 ซึ่งเดิมที่มีที่ดินทั้งหมดเกือบ 300ไร่ บริเวณปากน้ำสิชล จนปัจจุบันมีการแบ่งแยกกันในบรรดาพี่น้องด้วยกัน ที่ดินแปลงนี้ไม่เคยถูกระบุว่าเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์  เริ่มมีเอกสารสิทธิ์ครั้งแรกตั้งแต่ ปี 2498   ซึ่งได้เอกสารสิทธิ์มาก่อนที่กลุ่มชาวบ้านกลุ่มนี้มาอาศัยอยู่ก่อนอีก   ขอยืนยันว่าที่ดินไม่มีเกาะกลาง ที่ดินเป็นผืนเดียวกันทั้งหมดแต่พอน้ำทะเลขึ้นสูงท่วมตรงบางจุดก็จะเห็นว่าเหมือนว่ามีเกาะกลางแต่พอน้ำลดก็จะเห็นชัดเจนทั้งแปลง ในสมัยก่อนชาวบ้านที่มาอาศัยอยู่ริมคลองเพียงไม่กี่คน

        
      จนกระทั่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มชาวบ้านที่มีปัญหามีประมาณ 70 คนเท่านั้น  ซึ่งก่อนหน้านี้ญาติของชาวบ้านกลุ่มนี้มีความสนิทสนมกับคนดูแลที่ดินแปลงนี้มาก่อน จนกระทั่งเจ้าของที่ดินมีการเปลี่ยนคนดูเป็นคนใหม่และได้เรียกเก็บเงินจากชาวบ้านกลุ่มนี้ชาวบ้านจึงรวมตัวกันต่อต้านไม่ยอมจ่ายเงิน  และกลุ่มชาวบ้านแทบทั้งหมดนี้จะเป็นญาติพีน้องกัน  ส่วนชาวบ้านที่เหลือก็จ่ายค่าเช่ากันตามปกติ  จึงได้เดินทางมาขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนและทหารกองทัพภาคที่4

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น