นราธิวาส โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะปอม
จัดอบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดเสี่ยง ลดโรคความดันโลหิตสูง
และโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.60 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะปอม
จัดกิจกรรมอบรมโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดเสี่ยง ลดโรคความดันโลหิตสูง
และโรคเบาหวาน ณ ห้องประชุนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะปอล อำเภอเมือง
จังหวัดนราธิวาส ตามที่นโยบายของกระทรวงสาธาณสุข
ได้ไห้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกคนภาคส่วนในสังคมในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ
โดยเฉพาะด้านการเสริมสร้างสุขภาวะให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง
ทั้งกายและใจสามารถดูแลตนเองได้โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาทุนสังคมและภูมิปัญญาชุมชนตลอดจนการมีส่วนร่วมของพื้นที่ในระดับท้องถิ่น
กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จของการสร้างสุขภาวะให้คนไทยแข็วแรงส่วนหนึ่งนั้นโดยได้กำหนดตัวชี้วัดของโรคไม่ติดต่อได้แก่โรคความดันโลหิตสูงโรคอัมพฤกษ์อัมพาต.
โรคเบาหวานโรคหลอดเลือดหัวใจ. โดยกำหนดให้มีกิจกรรมการคัดกรอง.
ค้นหาผู้ป่วยในชุมชนและให้มีการลดละกิจกรรมเสี่ยงอันได้แก่ละเลิกการสูบบุหรี่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ลดอาหารทีมีรสหวาน มัน. เค็ม.
และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานผักผลไม้เพิ่มขึ้น. มีการออกกำลังกายเป็นประจำ.
ลดภาวะนำ้หนักนักเกินการ. ดำเนินงานไห้ประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและยั่นนั้นจำเป็นจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคทุกส่วนที่เกี่ยวข้องและการกำหนดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมของพื้นที่
จากการคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง ในปี 2559 เป้าหมายประชากร 35 ปีขึ้นไป จำนวน 1055 คน คัดกรองได้ 990 คน คิดเป็นร้อยละ 93.84 คน พบกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานจำนวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 5.45
กลุ่มสงสัยเป็นโรคเบาหวาน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 1.51 ผู้ป่วยรายใหม่ 6 คน คิดเป็นร้อยละ 0.60 และพบกลุ่มเสี่ยงสูงต่อความดันโลหิตสูง จำนวน 128 คนคิดเป็นร้อยละ 12.92 กลุ่มสงสัยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 2.52 ผู้ป่วยรายใหม่ 9 คนคิดเป็นร้อยละ 0.90
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสะปอม
มุ่งหวังเพิ่มประสิทธิภาพความครอบคลุมการเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคเบาหวาน
ความดันโลหิตสูง จึงได้จัดทำโครงการปรับพฤติกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงเพื่อเฝ้าระวังโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน
ในเขต 2
ขึ้นโดยให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การสร้างความร่วมมือ
และพัฒนากิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดอัตราเพิ่มของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
และเบาหวาน
เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง
ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 และประชาชนกลุ่มเสี่ยง/กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
มีผลการตรวจระดับนำ้ตาลในเลือด/ระดับความดันโลหิต
เปลี่ยนแปลงอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
ขอบคุณข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น