โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560

กระบี่ ชาวเกาะพีพี พบพะยูนเพศผู้ยาวประมาณ2เมตร หนักกว่า40 กก. เกยตื้นที่บริเวณอ่าวด้านหลังเกาะพีพี

 กระบี่ ชาวเกาะพีพี พบพะยูนเพศผู้ยาวประมาณ2เมตร หนักกว่า40 กก.  เกยตื้นที่บริเวณอ่าวด้านหลังเกาะพีพี 

       เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สภาพอ่อนเพลีย มีบาดแผลฉกรรจ์ที่หลังเริ่มเน่าเหม็น   เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  เร่งเข้าช่วยเหลือแต่ได้เสียชีวิตแล้วเมือช่วงเช้า
 วันที่ 18 มิ.ย.60  เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ภูเก็ต   เข้าช่วยเหลือพะยูนเพศผู้ หนักกว่า44 กก.ยาวประมาณ 2 เมตร   หลังชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะพีพี พบลอยเกยตื้นบริเวณอ่าวด้านหลังเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง  จ.กระบี่


          จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอยู่ในสภาพอ่อนแรง  มีบาดแผลถลอกคล้ายของมีคมอยู่ที่บริเวณแผ่นหลังไปจนถึงโคนหาง และเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็น  เจ้าหน้าที่ให้ยาปฏิชีวนะ ให้น้ำเกลือ  ก่อนนำตัวไปรักษาต่อที่ศูนย์วิจัยฯ  เบื้องต้นอาการยังไม่ดีขึ้น  ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าเวลา 08.30 น.ที่ผ่านมา พะยูนตัวดังกล่าวได้เสียชีวิตลงแล้ว

        ดร.ก้องเกียรติ  กิตติวัฒนาวงศ์    ผอ.ศูนย์วิจับและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต  เปิดเผยว่า  หลังเจ้าหน้าที่พยามช่วยชีวิตพะยูนตัวกล่าวอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ไม่สามรถยื้อชีวิตไว้ได้  เบื้องต้นคาดว่าถูกของคมฟันที่แผ่นหลัง อาจจะเกิดจากใบจักรเรือฟัน หรือเครื่องมือประมงบางอย่าง  และมีอาการป่วยมาอยู่หลายวัน จนกระทั่งอ่อนแรง  ไม่สามรถช่วยเหลือตัวเองได้  ก่อนที่จะถูกคลื่นซัดมาที่ชายฝั่งเกาะพีพี และมีชาวบ้านไปพบ  ขณะนี้อยู่ระหว่างการการผ่าซาก เพื่อตรวจสอบอวัยวะภายในว่า มีการติดเชื้อหรือไม่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป


   






                   สำหรับในรอบในปีนี้ ในทะเลฝั่งอันดามันพบว่าพะยูนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางทะเลแล้ว จำนวนกว่า10 ตัว ส่งผลทำให้พะยูนลดจำนวนลง  ส่วนใหญ่จะถูกใบจักรเรือ  เครื่องมือประมง  เช่นอวนจากเรือประมง  ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์วิจัยฯได้หาทางป้องกัน โดยการกำหนดพื้นที่อนุรักษ์พะยูน  โดยเริ่มโครงการนำร่องที่จังหวัดตรัง และขายไปยังจังหวัดใกล้เคียง เพื่อป้องกันพะยูนได้รับอันตราย  โดยให้ชาวประมงมีส่วนร่วมในการดูแล
ขอบคุณ น้าเมศ มากผล กระบี่

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น