จำนวนผู้เข้าชม

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ทำไม ??....สื่อจึงไม่ควรมีกฎหมายวิชาชีพ



ทำไม??..สื่อจึงไม่ควรมีกฎหมายวิชาชีพ

...อาชีพ สื่อมวลชนเป็นเสรีภาพพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน ของบุคคลตามมาตรา 34 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งไม่จำเป็นต้องจบมาทางนิเทศศาสตร์ก็สามารถประกอบวิชาชีพนี้ได้ แต่เมื่อจะยึดอาชีพสื่อมวลชนกันจริง ๆ สิ่งที่ต้องมีเพิ่มขึ้นก็คือ จริยธรรมแห่งวิชาชีพ หรือต้องมีอาชีวะปฏิญาณ ซึ่งรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้อย่างชัดเจนในมาตรา 35..."
ร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ....จัดทำโดยคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน ซึ่งมีพลอากาศเอก คณิต สุวรรณเนตร สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ถูกผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนร่วมกันคัดค้านด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ที่ประชุม สปท. ก็ลงมติเห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งต่อไปเป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
       อย่างไรก็ตาม มีคำถามว่า สื่อมวลชนเป็นวิชาชีพหรือไม่ และควรมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือไม่
ตอบว่า สื่อ มวลชนเป็นวิชาชีพ เพราะเป็นงานที่ส่งผลกระทบไม่เพียงปัจเจกบุคคล หากต่อความรู้สึกนึกคิดของคนโดยส่วนรวม ถ้าข้อมูลข่าวสารนั้นบิดเบือน ก็อาจนำไปสู่ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง หรืออาจนำไปสู่ความเกลียดชัง ขัดแย้ง ไปจนถึงความรุนแรง ดังที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
เมื่อเป็นวิชาชีพ คนทำสื่อก็ควรขึ้นทะเบียนตามกฎหมายเหมือนวิชาชีพอื่น ๆ อันน่าจะเป็นคำตอบข้อต่อไปหรือไม่นั้น
        ตอบว่าไม่จำเป็น แม้จะได้ชื่อว่าเป็นวิชาชีพ ซึ่งอธิบายได้ ดังนี้
วิชาชีพ อื่น ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการแพทย์ ไปจนถึงสถาปนิก วิศวกร บัญชี ทนายความ เป็นต้น ล้วนต้องมีความรู้เฉพาะทาง ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น ยังต้องมีมาตรฐานในการประกอบอาชีพอีกด้วย เมื่อเป็นอาชีพเฉพาะที่ไม่ให้ผู้อื่นทำ อันเป็นการจำกัดสิทธิที่ไม่เท่าเทียม จึงต้องตรากฎหมายระบุเหตุผลในการสงวนไว้เป็นการเฉพาะ เช่น คนจบแพทยศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ หรือนิติศาสตร์ เป็นต้น
        กระนั้น ก็ยังต้องผ่านการทดสอบจากแต่ละสภาวิชาชีพ เช่น ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะในการประกอบอาชีพที่กระทำหรือมุ่งหมายจะกระทำต่อ มนุษย์เกี่ยวกับการตรวจโรค การวินิจฉัยโรค การบำบัดโรค การป้องกันโรค ฯลฯ ซึ่งผู้อื่นกระทำมิได้ หรือแม้แต่จบแพทย์มาแล้ว ถ้ายังไม่ขึ้นทะเบียนและยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ก็ประกอบอาชีพแพทย์ไม่ได้เช่นกัน
        แต่ อาชีพสื่อมวลชนเป็นเสรีภาพพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน ของบุคคลตามมาตรา 34 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งไม่จำเป็นต้องจบมาทางนิเทศศาสตร์ก็สามารถประกอบวิชาชีพนี้ได้ แต่เมื่อจะยึดอาชีพสื่อมวลชนกันจริง ๆ สิ่งที่ต้องมีเพิ่มขึ้นก็คือ จริยธรรมแห่งวิชาชีพ หรือต้องมีอาชีวะปฏิญาณ ซึ่งรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้อย่างชัดเจนในมาตรา 35
จึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ให้สื่อมวลชนต้องขึ้นทะเบียนและต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแบบเดียวกันกับวิชาชีพเฉพาะสาขาอันเป็นจำกัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน
          ส่วนการลงโทษสื่อมวลชนที่ละเมิดสิทธิผู้อื่นนั้น วันนี้เรามีกฎหมายหลายฉบับ เช่น กฎหมาย อาญา กฎหมายแพ่ง กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคุ้มครองต่าง ๆ ทั้งเด็ก เยาวชน และครอบครัว ที่สื่อมวลชนต้องรับผิดไม่ต่างจากบุคคลทั่วไป ขอให้รัฐหรือบุคคล เช่น ศิลปิน ที่เห็นว่าตนถูกละเมิด โปรดใช้กฎหมายเหล่านี้อย่างจริงจัง (เสียที) เท่านั้น
แต่ถ้าจะมีกฎหมายเพื่อสนับสนุนการกำกับดูแลกันเอง เช่นนี้ ยังน่าจะเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาและปรึกษาหารือกัน มากกว่าการใส่กรงตีตราอย่างที่เป็นอยู่ในร่างกฎหมายฉบับนี้
บรรยงค์ สุวรรณผ่อง
1 พฤษภาคม 2560
 ที่มา www.isranews.org

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โฆษณา


วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้