ทำไม??..สื่อจึงไม่ควรมีกฎหมายวิชาชีพ
...อาชีพ สื่อมวลชนเป็นเสรีภาพพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็น
การพูด การเขียน
ของบุคคลตามมาตรา 34 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งไม่จำเป็นต้องจบมาทางนิเทศศาสตร์ก็สามารถประกอบวิชาชีพนี้ได้ แต่เมื่อจะยึดอาชีพสื่อมวลชนกันจริง ๆ
สิ่งที่ต้องมีเพิ่มขึ้นก็คือ จริยธรรมแห่งวิชาชีพ หรือต้องมีอาชีวะปฏิญาณ ซึ่งรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้อย่างชัดเจนในมาตรา 35..."
ร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ
ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ....จัดทำโดยคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน ซึ่งมีพลอากาศเอก
คณิต สุวรรณเนตร สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน ถูกผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนร่วมกันคัดค้านด้วยเหตุผลหลายประการ
แต่ที่ประชุม สปท. ก็ลงมติเห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งต่อไปเป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
(สนช.)
อย่างไรก็ตาม มีคำถามว่า สื่อมวลชนเป็นวิชาชีพหรือไม่
และควรมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือไม่
ตอบว่า สื่อ มวลชนเป็นวิชาชีพ
เพราะเป็นงานที่ส่งผลกระทบไม่เพียงปัจเจกบุคคล หากต่อความรู้สึกนึกคิดของคนโดยส่วนรวม
ถ้าข้อมูลข่าวสารนั้นบิดเบือน ก็อาจนำไปสู่ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
หรืออาจนำไปสู่ความเกลียดชัง ขัดแย้ง ไปจนถึงความรุนแรง
ดังที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
เมื่อเป็นวิชาชีพ
คนทำสื่อก็ควรขึ้นทะเบียนตามกฎหมายเหมือนวิชาชีพอื่น ๆ
อันน่าจะเป็นคำตอบข้อต่อไปหรือไม่นั้น
ตอบว่าไม่จำเป็น แม้จะได้ชื่อว่าเป็นวิชาชีพ ซึ่งอธิบายได้ ดังนี้
วิชาชีพ อื่น ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการแพทย์ ไปจนถึงสถาปนิก
วิศวกร บัญชี ทนายความ เป็นต้น ล้วนต้องมีความรู้เฉพาะทาง ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น ยังต้องมีมาตรฐานในการประกอบอาชีพอีกด้วย
เมื่อเป็นอาชีพเฉพาะที่ไม่ให้ผู้อื่นทำ อันเป็นการจำกัดสิทธิที่ไม่เท่าเทียม จึงต้องตรากฎหมายระบุเหตุผลในการสงวนไว้เป็นการเฉพาะ
เช่น คนจบแพทยศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ หรือนิติศาสตร์ เป็นต้น
กระนั้น ก็ยังต้องผ่านการทดสอบจากแต่ละสภาวิชาชีพ เช่น ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะในการประกอบอาชีพที่กระทำหรือมุ่งหมายจะกระทำต่อ
มนุษย์เกี่ยวกับการตรวจโรค การวินิจฉัยโรค การบำบัดโรค การป้องกันโรค ฯลฯ ซึ่งผู้อื่นกระทำมิได้
หรือแม้แต่จบแพทย์มาแล้ว ถ้ายังไม่ขึ้นทะเบียนและยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ
ก็ประกอบอาชีพแพทย์ไม่ได้เช่นกัน
แต่ อาชีพสื่อมวลชนเป็นเสรีภาพพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็น
การพูด การเขียน
ของบุคคลตามมาตรา
34
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งไม่จำเป็นต้องจบมาทางนิเทศศาสตร์ก็สามารถประกอบวิชาชีพนี้ได้ แต่เมื่อจะยึดอาชีพสื่อมวลชนกันจริง ๆ
สิ่งที่ต้องมีเพิ่มขึ้นก็คือ จริยธรรมแห่งวิชาชีพ หรือต้องมีอาชีวะปฏิญาณ ซึ่งรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้อย่างชัดเจนในมาตรา
35
จึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ให้สื่อมวลชนต้องขึ้นทะเบียนและต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแบบเดียวกันกับวิชาชีพเฉพาะสาขาอันเป็นจำกัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน
ส่วนการลงโทษสื่อมวลชนที่ละเมิดสิทธิผู้อื่นนั้น
วันนี้เรามีกฎหมายหลายฉบับ เช่น กฎหมาย อาญา กฎหมายแพ่ง กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคุ้มครองต่าง ๆ
ทั้งเด็ก เยาวชน
และครอบครัว
ที่สื่อมวลชนต้องรับผิดไม่ต่างจากบุคคลทั่วไป ขอให้รัฐหรือบุคคล เช่น ศิลปิน ที่เห็นว่าตนถูกละเมิด
โปรดใช้กฎหมายเหล่านี้อย่างจริงจัง (เสียที) เท่านั้น
แต่ถ้าจะมีกฎหมายเพื่อสนับสนุนการกำกับดูแลกันเอง เช่นนี้ ยังน่าจะเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาและปรึกษาหารือกัน
มากกว่าการใส่กรงตีตราอย่างที่เป็นอยู่ในร่างกฎหมายฉบับนี้
บรรยงค์ สุวรรณผ่อง
1
พฤษภาคม 2560
ที่มา www.isranews.org
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น