มหาวิทยาลัยนราธิวาสฯผลิตแพทย์เพิ่ม เยียวยาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่งแพทย์ใหม่ป้ายแดงรุ่นที่ 5 ลงพื้นที่
เมื่อเวลา
10.00 น.วันที่ 2 พ.ค.60 ณ ห้องประชุม ดร.จงรัก พลาศัย ชั้น 3 สำนักงานอธิการบดี
มหาวิทยาลัยนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รสสุคนธ์ แสงมณี
อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
เป็นประธานพิธีเปิดโครงการปัจฉิมนิเทศบัณฑิตแพทย์ ปีการศึกษา 2559 โดยมี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลา และผู้อำนวยการศูนย์แพทย์ศาสตรศึกษาคลินิก ผู้บริหารนักศึกษา
คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสฯ ผู้ปกครอง
จำนวนกว่า 200 คน ร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ที่กำลังจะลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่
3 จังหวัดขายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย นราธิวาส ยะลา และปัตตานี
พร้อมเป็นสักขีพยานในการมอบโล่เชิดชูเกียรติแก่บัณฑิตแพทย์ทั้ง 24 คน
ที่จบการศึกษาในครั้งนี้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.รสสุคนธ์ แสงมณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่าคณะแพทย์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยนราธิวาสฯ
เริ่มรับนักศึกษาเข้ารับการศึกษาหลักสูตรแพทย์ศาสตร์บัณฑิตตั้งแต่ปี 2550
เป็นต้นมา และในปี 2559 นี้ นักศึกษาแพทย์รุ่นที่ 5 คณะแพทย์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยนราธิวาสฯ จำนวน 23 คน
ได้สำเร็จการศึกษาเพื่อออกไปปฏิบัติงานรับใข้สังคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นับเป็นเกียรติอประวัติของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสฯเป็นอย่างยิ่ง
โดยคณะแพทย์ศาสตร์ จึงจัดให้มีโครงการปัจฉิมนิเทศนักศึกษาแพทย์
เพื่อแสดงความชื่นชม ยินดี แก่ผู้สำเร็จการศึกษา และเป็นการเตรียมความพร้อมในการออกไปปฏิบัติงานในสังคมให้เป็นที่ยอมรับของชุมชน
และสังคม ภายใต้ความหลากหลายทางวัฒนธรรม
มีคุณธรรมจริยธรรมตามที่สถาวิชาชีพได้กำหนดไว้ส่งผลให้เกิดประโยชน์และพัฒนาชาติสืบไป
ด้าน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสฯ กล่าวว่า
สำหรับปี 2560 นี้ ทางมหาวิทยาลัยนราธิวาสฯ ได้ผลิตแพทย์เพิ่มปีละ 24 คน
ซึ่งในขณะนี้เรามีแพทย์ที่ผลิตออกมาแล้ว รวม 11 รุ่น
โดยทั้งหมดเป็นบุตรหลานของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
และเมื่อนักศึกษาเหล่านี้สำเร็จการศึกษาไปแล้วจะต้องออกปฏิบัติงานรับใช้สังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในสภาวะปัจจุบันการพัฒนาการศึกษาจะต้องไปควบคู่กับปัญหาสังคมที่ยังเกิดความรุนแรง
โดยเฉพาะเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่จะต้องให้ความสำคัญและมีความตั้งใจในการแก้ปัญหาและพัฒนาการศึกษาอย่างจริงจัง
การขาดแคลนบุคลาการทางการแพทย์ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ถือได้ว่ายังเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องเร่งแก้ไข
และจะต้องมุ่งมั่นผลัดดันให้นักเรียนในพื้นที่เข้ามาเรียนในสายวิทยาศาสตร์
เพื่อก้าวสู่การเป็นแพทย์ให้มากขึ้น
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น