"นิพนธ์" ลงพื้นที่โรงครัวเนชั่นปันน้ำใจ ร่วมกับเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรเป็นวันที่ 3 พร้อมชี้แนะรัฐบาลควรเข้ามาดูในแผนระยะยาว เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อย่างเป็นระบบโดยยึดตามแนวพระราชดำริในหลวง ร.9

 "นิพนธ์"  ลงพื้นที่โรงครัวเนชั่นปันน้ำใจ ร่วมกับเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรเป็นวันที่ 3   พร้อมชี้แนะรัฐบาลควรเข้ามาดูในแผนระยะยาว เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อย่างเป็นระบบโดยยึดตามแนวพระราชดำริในหลวง ร.9

     นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายสมยศ พลายด้วง สส.พรรคปชป. เขต 3 สงขลา รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  ในฐานะตัวแทน เครือข่ายช่วยเหลือประชาชนภาคใต้ และเอกชน  ร่วมกับ นายวิชาธร วงษ์พันธุ์ รองบรรณาธิการเนชั่น ทีวี  เปิดโรงครัวเนขั่นปันน้ำใจ  ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา  ณ โรงครัววัดโคกสมานคุณ โดยวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการเปิดโรงครัว นับตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนเป็นต้นมา เพื่อที่จะนำอาหารมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 

 พร้อมกันนี้ในวันนี้ ยังได้จัดเตรียมถุงยังชีพอีกจำนวน 500 ชุด เพื่อนำมามอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในสองชุมชน คือชุมชนคลอง ร.1 ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากเป็นชุมชนที่อยู่ใกล้กับคลอง ร.1  และยังเป็นประตูระบายน้ำ และอีกจุดหนึ่งคือชุมชนคลองหวะที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจุดนี้มีน้ำท่วมสูงเกินกว่า 1 เมตร  แม้ว่าขณะนี้ระดับน้ำได้เริ่มลดลงแล้ว แต่พี่น้องประชาขนในชุมชนดังกล่าวยังต้องได้รับความช่วยเหลือ ทั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาขนเป็นเบื้องต้น นอกจากการทำข้าวกล่องแจกวันละ 5000 กล่อง โดยแบ่งเป็น 2 รอบคือรอบเช้า 10 โมง  2500 กล่อง และรอบเย็น 5 โมงอีก 2500 กล่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

   นายนิพนธ์ ในฐานนะตัวแทนเครือข่ายะันธมิตรกล่าวว่า    การที่มูลนิธิเนชั่นจัดโครงการเนชั่นปันน้ำใจ ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร เครือข่ายที่อยู่ในจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ได้ร่วมกันจัดครัวเนชั่นผลิตอาหารพร้อมรับประทานอาหารกล่อง มาตั้งแต่วันที่ 29 ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 3 โดยทำการผลิตวันละ 5,000 กล่อง เพื่อนำไปแจกจ่ายยังชุมชนต่างๆ ซึ่งเขตนี้เป็นเขตที่ 3  และเป็นเขตของ สส.สมยศ พลายด้วง และทราบว่าจุดนี้จะได้งบประมาณ 400 กว่าล้าน ในการที่จะปรับปรุง

 เพื่อให้น้ำได้ไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการทำระบบระบายน้ำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ฉะนั้นรัฐบาลเองก็ต้องเข้ามาดูแผนในระยะยาวว่าจะช่วยได้อย่างไร ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นว่า คลอง ร.1 และคลองต่างๆไม่ว่าจะเป็นคลองร. 2  ร. 3  ร. 4  และร.5  สามารถที่จะผลักดันน้ำให้ไหลลงทะเลสาบสงขลาได้อย่างรวดเร็ว นี่คือแนวทางพระราชดำริที่ทรงมองระยะไกล

 ที่ได้พระราชทานให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดสงขลา เมื่อปี 2543 ซี่งในขณะนั้นนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ครม.ได้้อนุมัติโครงการดังกล่าว   และต่อมาก็ได้มีการปรับปรุงมาเป็นระยะ วันนี้เราจึงได้เห็นผลสัมฤทธิ์แล้ว  ซึ่งการแก้ปัญหาในคลองสาขาต่อๆไป ก็หวังว่าจะได้นำเอาแนวทางของพระองค์ท่านในรัชกาลที่ 9 ที่ได้พระราชทานให้แนวทางไว้ ไปดำเนินการต่อเพื่อที่จะแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบที่สุด ///