โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564

คุณค่ากาลเวลา “ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ “ ครบรอบ 2 ปี วัยเกษียณจากเทศบาลสู่สื่อมวลชน เพื่อสร้างสรรค์ (ชมคลิป)

 

คุณค่ากาลเวลา ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ ครบรอบ 2 ปี วัยเกษียณจากเทศบาลสู่สื่อมวลชน เพื่อสร้างสรรค์ (ชมคลิป) 








ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บรรณาธิการ/เจ้าของเวปไซต์ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้



  30 กันยายน 2564 คุณค่ากาลเวลา ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ ครบรอบ 2 ปี วัยเกษียณจากเทศบาลสู่สื่อมวลชน เพื่อสร้างสรรค์




     ด้วยระยะเวลา ความมุ่งมั่น เวลาคือ การลงทุน ประสบการณ์คือกำไร ทำให้เส้นทางชีวิตของผมผูกผันก้าวสู่อาชีพนักข่าว w.w.w. Deep  South post  ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้

     นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งแก่ตนเองและวงศ์ตระกูลสร้างความภาคภูมิใจกับรางวัลด้วยระยะเวลาที่ผ่านมา โล่และเกียรติบัตร สาขาสื่อมวลชน  


     นอกจากเป็นการยืนยันคุณค่าในงานที่ทำด้วยใจรัก ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผมมีอุดมการณ์ ยึดมั่นจรรยาบรรณ วิชาชีพ ด้วยคุณธรรม จริยธรรม


                           นักข่าวหนังสือพิมพ์ที่ดีต้องมีความรับผิดชอบ ด้วยจรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรม ทางศีลธรรม และมโนธรรมด้วย จะต้องเป็นครูของสังคม ที่พึ่งหลักประกันของสังคมและประชาชน จะต้องให้ความสว่างแก่ผู้อ่าน หน้าที่คือบอกเล่าสาธารณชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันต่อวัน ยึดสัจธรรมเป็นสรณะ





       ตลอด 37 ปี ที่ผมเริ่มทำงาน มาตั้งแต่ปี 2526 เทศบาลตำบลรือเสาะ  ตำแหน่ง ผู้ช่วยช่างศิลป์ กองวิชาการและแผนงาน ด้านการประชาสัมพันธ์

        ต่อมาหลังจากสุขาภิบาลได้ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลรือเสาะ ผมก็ได้บรรจุเป็นลูกจ้างประจำ เมื่อปี 2539 ตำแหน่ง ผู้ช่วยช่างศิลป์ (ปัจจุบัน นายช่างศิลป์)









      จัดทำวารสารรือเสาะสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ข่าวสารข้อมูล ความก้าวหน้าในการพัฒนาท้องถิ่นของอำเภอรือเสาะ เป็นกระบอกเสียงให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้ ช่วยกันคิด  ช่วยกันทำ บอกความเคลื่อนไหวของสังคมรือเสาะ และยัง        โดยรับผิดชอบเป็นบรรณาธิการ”วารสารรือเสาะสัมพันธ์ “ เขียนข่าว การถ่ายภาพกิจกรรมของเทศบาล กิจกรรมข่าวท้องถิ่น  เขียนสกู๊ปสัมภาษณ์พิเศษ  และซุบซิบสังคมท้องถิ่น นามปากกา ตาแมว

       ยุคโลกเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน   การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี่ไปสู่โลกดิจิตอลสื่อออนไลน์มีบทบาทในการเปลี่ยนพฤติกรรมการเสพข้อมูลข่าวสารของผู้คนในยุคปัจจุบัน  โดยมีสื่อใหม่ อาทิ เฟสบุ๊ก  ไลน์ ยูทูป   เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ซึ่งนอกจากเพิ่มความสะดวกในการติดด่อสื่อสารอย่างรวดเร็วและอย่างทั่วถึง   ทำให้องค์กรสื่อสิ่งพิมพ์หลายๆเสี่ยงจะต้องปิดตัวลง



        จนกระทั่ง นับตั้งแต่  วารสาร รือเสาะสัมพันธ์ฉบับที่1 ปีที่ 1 ประจำเดือนตุลาคม 2539 ซึ่งเป็นฉบับปฐมฤกษ์ ซึ่งได้จัดพิมพ์มานาน ถึง22 ปี ต้องปิดตำนาน ฉบับสุดท้าย ฉบับที่ 305 ซึ่งเป็นฉบับปีเก่า..ต้อนรับปีใหม่ 2561




               ด้วยระยะเวลาและความมุ่งมั่น เวลาคือการลงทุน  ประสบการณ์คือกำไร  ทำให้ชีวิตผกผันก้าวสู่อาชีพนักข่าว   บนเส้นทางชีวิตกว่า 20ปี  เริ่มต้นด้วยประโยคที่ว่า ใจรักที่จะทำ  ก็ไม่เคยเรียนนิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ จากที่ใด  เรียนรู้ทุกสิ่งทุก..ทุกอย่างจากการทำงานเป็นนักข่าว  นักเขียนอิสระ  อาศัยรักการอ่านหนังสือทุกประเภท และประสบการณ์ที่ได้ทำข่าวในพื้นที่มาตลอด



     ครับ 37 ปี  ที่ผมได้ทำงานเทศบาลตำบลรือเสาะ ที่ปฏิบัติหน้าที่ อย่างทุ่มเท  เสียสละ มิได้หวังอะไรไปมากกว่า..ความสุขใจ อิ่มใจ ในการมีส่วนร่วมเป็นเฟืองตัวเล็กๆในการเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อท้องถิ่น ที่ผมประทับใจอย่างไม่มีวันลืม เพราะทำให้ผมได้ความรู้  ประสบการณชีวิต และสิ่งดีๆที่มีคุณค่าต่อชีวิตมากมาย ที่เห็นผลงานที่ด้วยหยาคเหงื่อ..สองมือ  หนึ่งสมอง 

      ผลงานที่เพื่อนพ้อง  พี่  ผู้บังคับบัญชาที่ดี คอยชี้แนะ  คอยช่วยเหลือ  คอยเกื้อกูล คอยสนับสนุน และ  เปิดโอกาสให้ทำผลงาน ที่ได้ดำริคิดค้นขึ้นเอง   ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยวิระยะ  อุตสาหะ ได้สร้างผลในหน้าที่ ได้ประกอบคุณงามความดี ได้รับ คำชมเชย ได้รับการเชิดชูเกียรติ ทั้งด้วยวาจาและเอกสาร 



    เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นความภาคภูมิใจ ที่เชิดชูคุณงามความดีกับตนเองและวงศ์ตระกูล ตราบนานเท่านนานแต่คุณงามความที่ได้สร้างสมมา จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำตลอดไป


        ณ วันนี้ ได้หยุดกาลเวลาทำงานตามหน้าที่ของตนเองไว้ที่ตรงนี้แล้ว ไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตและพัฒนาการทำงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

         จนกระทั่งเกษียณราชการเมื่อวันที่30 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้  30 กันยายน 2564 คุณค่ากาลเวลา  ครบรอบ 2 ปี วัยเกษียณจากเทศบาลสู่สื่อมวลชน เพื่อสร้างสรรค์



       ถึงแม้ผมจะเกษียณอายุราชการ แต่ความรัก ความคิดถึงและความรู้สึกผูกพันของผมจะยังคงอยู่ชัวนิรันดร์ ...และพร้อมที่จะทำหน้าที่สื่อมวลชน..ที่ไม่คำว่า เกษียณด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ ยึดหลักสัจธรรมสรณะ 

       ผมจะขอยึดมั่นด้วยอุดมการณ์  สร้างสุข  สนุกกับงาน  สร้างต้นทุนทางสังคม  ด้วยคุณธรรม  จริยธรรม  ความศรัทธา  นำมาสู่คุณค่าแห่งชีวิต ..เพื่อสังคมและประเทศชาติ..ต่อไป

      

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น